ช่วงเช้ามีการสัมนาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำโขงที่แปรปรวนต่างไปจ ากเมื่อก่อนมีวิทยากรออกมาพูดคุย 4-5 ท่าน โดยตัวงานในครั้งนี้พุ่งเป้าไปที่การสร้างเขื่อนของจีน มีการปิดกั้นกระแสน้ำและทำเขื่อนคร่อมแม่น้ำโขง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติ เช่น น้ำลดลงมากกว่าแต่เก่า เวลาน้ำมากก็มากผิดปกติ และ กระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ทำให้พวกปลาต้องมีการอพยพไปอยู่ถิ่นฐานใหม่ที่เหมาะสมกว่า ระบบนิเวศน์ที่มีอยู่เดิมได้เสียไป แต่ก่อนจะมีเทศกาลจับปลาบึกซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ของน้ำโขง ซึ่งโดยปกติแล้วจะแต่ละครั้งจะจับได้ 20-30 ตัว แต่มาในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้แต่ละปีนั้นเค้าเล่าว่าจับได้เพียง 4 ตัวเท่านั้น นี่ย่อมเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความผิดปกติของลำน้ำโขง
วิทยากรท่านนึงรู้สึกจะชื่อ อาจารย์ ธำรงศักดิ์ เป็นอาจารย์จากวิทยาลัย นวัตกรรมการศึกษา มหาวิทยาลัยรังสิต ได้บรรยายตั้งแต่แรกเริ่มของการพัฒนาชาติจีนว่ามีความเป็นมาอย่างไรและปัจจุ บันเป็นอย่างไร ท่านได้บรรยายเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับประเทศจีนภายใน 10 ปี ที่ได้มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างมากสังเกตได้จากตึกระฟ้า, การคมนาคมทางรถไฟที่รวดเร็ว, การลงทุนเมกะโปรเจคก์ ของทางรัฐบาล เหล่านี้เป็นการเติบโตแบบยักตื่นอย่างที่ใครเค้าพูดถึงจริงๆ ผมเสริมเพิ่มเติมว่าเพราะการพัฒนาแบบก้าวกระโดดแบบนี้ของจีนทำให้ปริมาณการ ใช้ไฟฟ้าของจีนขาดแคลน ทำให้ต้องเร่งสร้างเขื่อนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าเป็นจำนวนมาก อย่างเร่งด่วน
มีอยู่ตอนนึงท่านเล่าว่า ทางตอนใต้ของมลฑลยูนนานมีการอพยพผู้คนกว่า 1 ล้าน 9 แสนคนออกไป เพื่อต้องการสร้างเขื่อน การทำอย่างนี้ของจีนทำได้ง่ายนิดเดียวเพราะถ้าเป็นประเทศไทยเราคงไม่มีทางทำ ได้เพราะอย่างของจีนนั้นรัฐบาลเป็นเจ้าของสื่อทั้งหมด ทำให้กระทำการใดๆ ได้อย่างง่ายดายและตามใจชอบ ท่านเปรียบเปรยว่า จีนมองปัญหาของชาวบ้านตรงจุดนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่มีผลอะไรเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยธรรมดา เพราะเป็นเขตบ้านนอกไม่มีการพัฒนาและสุดเขตแดน ขนาดปัญหาของประชากรของตนเองยังไม่สนใจเลยแล้วนับประสาอะไรกับเขตแดนสยามที่ เป็นสุดของที่สุดของบ้านนอกของเค้าอีกที ย่อมที่จะไม่อยู่ในสายตาของจีนอย่างแน่นอน
อีกตอนนึงท่านเล่าว่า "เคยเห็นถ่านนาฬิกา 4 ก้อน 5 บาทหรือไม่ มันเป็นถ่านที่พร้อมจะละลายภายในสองเดือนที่ใช้งาน ทำให้หลายคนถามด้วยความสงสัยว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าของจีนทำไมจึงห่วยนักและคุณภ าพไม่น่าเชื่อถือ เพราะ ระดับประเทศจีนนั้นมีศักยภาพผลิตของมีคุณภาพได้อย่างแน่นอน ท่านสงสัยจึงได้สอบถามไปยังจีน ได้ความว่า อ๋อ สินค้าที่เราส่งไปนั้นมันก็เป็นไปตามเกรดของประเทศนั่นแล" ฟังดูแล้วช่างเจ็บปวดเหลือเกินว่า นี่แหละเป็นสายตาที่จีนมองประเทศเรา (ในขณะที่ 10 ปีก่อนจากที่พวกเราเคยได้เดินทางไปเมืองจีนแล้วดูถูกเขาว่าจนบ้างหล่ะ สกปรกบ้างหล่ะ)
ดังนั้นทางออกของปัญหานี้คือเราจะต้องพยายามผลักดันปัญหานี้เป็นปัญหาระดับโ ลก ให้ช่วยกันป่าวประกาศ กดดัน ก่นประนามจีนในลักษณะของนานาชาติ ไม่ควรทำให้เป็นเรื่องของท้องถิ่นอีกต่อไป ซึ่งผมคิดว่าคงเป็นจุดมุ่งหมายของทางกลุ่มรักษ์น้ำโขงที่กำลังทำงานนี้กัน อยู่อย่างขมักเขม้น
งานนี้มีสิ่งที่ผมประทับใจกับชาวบ้านที่นี่มาก ขณะที่ผมเดินผ่านร้านค้าแห่งหนึ่งมีการรับประทานข้าวกันอยู่ มีการทักทาย ชวนทานข้าว (ตามมารยาท) อย่างน่ารัก หรือแม้กระทั่งร้านอาหารร้าน 1 เป็นร้านภายในงาน พวกเราไปนั่งกินที่ร้าน พร้อมนั่งคุยกับป้าเจ้าของร้าน อย่างเป็นกันเอง บ่นๆ ว่ายังไม่มีที่พัก ป้าแกชวนนอนที่บ้านเสร็จสรรพ บอกว่าบ้านแกมี 2 หลังไม่ค่อยมีคนอยู่จะไปนอนก็ได้ แค่นี้ก็รู้สึกดีและอบอุ่นมาก นี่ขนาดภายในตัวเขตชุมชนเมืองนะ แล้วถ้าเข้าไปข้างในล่ะจะขนาดไหน
25 ก.พ. 2549
MrsJan
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น