06 มีนาคม 2549

ผู้ชายเป็นใหญ่

วันนี้ผมดูแดจังกึมด้วยสงสัยว่าการที่พระราชาสามารถที่จะมีนางสนม (หรือง่ายๆ จากสายตาผมก็คือมีเมียน้อย) ได้ตามใจชอบแล้วทุกคนก็เห็นชอบเป็นประเพณีปฏิบัติ แม้แต่พระมเหสีก็ยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบานโดยที่ไม่ได้มีความรู้สึกแปลกประห ลาดพิสดารแต่อย่างใด ถ้าจากสายตาของผมก็อยากจะถามว่าแล้วพระมเหสีไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ !??

ทำให้เราเห็นได้เลยว่าประเพณีปฏิบัติในสมัยนั้นให้ผู้ชายเป็นใหญ่จนทุกคน เกิดความเคยชิน ทำให้ทุกคนไม่ได้รู้สึกอะไรเลยและผู้หญิงก็ถูกสอนให้คิดไปแบบนั้นเหมือนกัน จนไม่คิดว่ามันมีอะไรที่ผิดปกติ ยกเว้นตัวนางเอก!!

การณ์ปรากฏชัดยิ่งขึ้นในตอนท้ายเรื่อง ขณะที่พระราชาแต่งตั้งให้นางเอกเป็นขุนนางแล้วได้มีการต่อต้านอย่างหนักถึงข ั้นพระพันปีออกมานั่งให้สำเร็จโทษฐานไม่อบรมเลี้ยงดูลูกให้ดี จะเห็นว่าการที่ให้ผู้หญิงเป็นใหญ่เป็นโตในตำแหน่งสูงๆ ที่ทัดเทียมผู้ชายนั้นกลายเป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่ถึงแม้ว่าจะเก่งอย่างไรก็ให้ยศถาบรรดาศักดิ์เท่าเทียมผู้ชายไม่ได้

ด ังนั้นผู้หญิงจึงมักที่จะโดนกดไว้เบื้องล่างอยู่ตลอดเวลา แล้วซ้ำร้ายไอ้เจ้าปรากฏการณ์เหล่านี้ก็ดันเกิดขึ้นทั่วโลกจนเป็นโลกา ภิวัฒน์ไปซะงั้น หลังจากเรื่องราวเกี่ยวกับการเมืองการแก่งแย่งชิงอำนาจภายในวังหลวงได้ผ่านไ ป ก็เข้าสู่เนื้อหาการต่อสู้ระหว่างกลุ่มอนุรักษ์นิยมกับพวกหัวก้าวหน้า ทำให้เรื่องราวกลับเข้มข้นยิ่งขึ้น

นอกจากตัวนางเอกจะฟันฝ่าข้อคำถาม หลายอย่างในสมัยวัยเด็กไปได้แต่ก็เจอกับแรงต้านมากมาย เพียงเพราะความเป็นคนหัวก้าวหน้าและทันสมัยจนเกินไป ทำให้ผู้คนในสมัยนั้นที่ตามนางเอกไม่ทันก็พากันรับไม่ได้และออกแรงต้านอย่างสุดฤทธิ์

การพัฒนาในยุคสมัยใหม่นี้ ผู้หญิงได้ผ่านการยอมรับแล้วว่ามีความสามารถทัดเทียมผู้ชาย ทั้ง สว.ระเบียบรัตน์ที่พยายามจะต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีอย่างเข้มข้น แต่หลายอย่างก็ก้าวหน้าเกินไปจนชาวบ้านรับไม่ได้ ทำให้ผมออกจะมองดูหนังเรื่องนี้ด้วยความฉงนและไม่เข้าใจ ไม่ต่างกับแดจังกึมตอนที่ยังเป็นเด็กอยู่

06 มี.ค. 2549
MrsJan

2 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

โอ้ว..เป็นแฟนแดจังกึมกะเค้าด้วยเหรอเนี่ย

Mrs.Jan กล่าวว่า...

เค้าดูกันทั่วบ้านทั่วเมืองเลยดูบ้าง