สองนคราประชาธิปไตยที่ส่งผลรุนแรงที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก็คราวนี้แหละ ต่างฝ่ายต่างก็เป็นพลังบริสุทธิ์ด้วยกันทั้งสิ้น (ขอเหมารวมเอาเฉพาะที่บริสุทธิ์จริงๆ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง) ทั้งม็อบจตุจักรและม็อบสนามหลวง ล้วนแล้วแต่เรียกร้องสิ่งที่ตัวเองเห็นว่าถูกต้องและสมควรทำ
คนจนๆ จะเลือกได้หรือว่าจะให้ประเทศไปทางไหน ขอแค่ทางไหนก็ได้ที่ทำให้พวกเค้า ดูแลมีความหวังขึ้นมาบ้าง ในขณะที่คนมีอันจะกินที่สนามหลวง ย่อมมองห่วงไปข้างหน้าในสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ประชาธิปไตย อนาคตลูกหลาน อนาคตประเทศไทย จริยธรรม เพราะตัวเอง ณ.ปัจจุบัน ไม่เดือดร้อนเรื่องปากท้องแล้ว
พวกเรา (ชนชั้นกลาง) หรือ โลกาภิวัฒน์ กันแน่ที่ทำให้คนอีกกลุ่มหนึ่งที่จตุจักรไม่มีทางเลือก การพัฒนาที่ผิดทิศผิดทางมาตั้งแต่ต้นและมาหนักสุดๆ ก็ในยุคนี้ ที่หัวหน้ารัฐบาลเองยังยอมศิโรราบต่อทุนและอ้าแขนต้อนรับโลกาภิวัฒน์อย่างหน ้าชื่น
ความแตกต่างจริงๆ ของความแตกแยกในครั้งนี้ เรื่องความรู้และการเข้าถึงข่าวสารไม่เท่าเทียมกันนั้นเป็นปัจจัยหนึ่ง ส่วนอีกปัจจัยคือทางเลือกอันน้อยนิดของกลุ่มคนระดับล่างที่มารวมตัวกันที่จต ุจักร ทั้งม็อบแทกซี่และม็อบมอเตอร์ไซต์รับจ้าง
ยอมรับว่าไม่เคยมีรั ฐบาลไหนได้ให้โอกาสทางเลือก ให้กับพวกเค้าได้มากเท่านี้มาก่อน ทั้งทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งทุน ทางเลือกในการรักษาพยาบาล ทางเลือกในการศึกษา และ อื่นๆ
นอกเหนือจากความรู้ความเข้าใจแล้ว เราควรจะพาเขาออกจากปัญหาปากท้องให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรกใช่หรือไม่ พวกเราสบายกันพอแล้วหรือยัง
22 มี.ค. 2549
MrsJan
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น