
วันนี้เห็นหน้าเจ้าเบื้อกทางหน้าหนังสือพิมพ์โชว์ไปรษณียบัตร "สู้โว้ย" แล้วเอือมระอา ในขณะเดียวกันก็มีการรณรงศ์บอยคอตสินค้าที่กลุ่มทุนสิงคโปร์ซื้อจากชินคอร์ป ไปรวมทั้งสินค้าของกลุ่มทุนฟากฝั่งรัฐบาลด้วย ใจจริงก็อยากจะให้กำลังใจและร่วมรณรงศ์ให้ส่งผลสะเทือนเหมือนกันแต่คำถามที่ อยากจะถาม คือ แล้วมีอะไรที่ไม่ใช่สินค้าที่เข้าข่ายบ้างล่ะ แทนที่จะถามว่ามีอะไรที่เข้าข่ายบ้าง เพราะ ทุกวันนี้เราอาจจะไม่รู้ตัวว่าชีวิตตกอยู่ในอุ้งตีนพวกกลุ่มทุนเหล่านี้แล้ว โดยสิ้นเชิง
ผมจะลองนึกยกตัวอย่างดูเล่นๆ สักนิดเท่าที่จะจำได้ โทรศัพท์พื้นฐาน+Internet ความเร็วสูง True (Move), โทรศัพท์มือถือ Orange, UBC, รวมถึง สินค้าเกษตรทั้งหลายแหล่ หายห่วงว่าส่วนใหญ่เป็นของ เครือเจริญโภคภัณฑ์ สินค้าอะไหล่รถ อุตสาหกรรมยานยนต์ ล้วนนำเข้าจากพ่อค้าเครือ Summit ไม่เว้นแม้แต่รองเท้าที่บ้านผมขายอยู่ยี่ห้อ Aerosoft หะ หะ ยังเป็นของเครือ Summit Footware ถึงแม้ว่าแม่ผมปากก็ไม่ชอบ รบ. "แต่สินค้า Summit Footware เค้าดีจริงๆ ไม่เอาเปรียบรายย่อย" 55 ผลประโยชน์อยู่เหนือการเมืองเสมอ อ้อ ชื่อเจ้าของคือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เจ้าของคดี CTX นั่นแล
ส่วนสินค้าเครือชินคอร์ปคิดว ่าคงไม่ต้องสาธยายมาก การสื่อสาร ดาวเทียม โรงพยาบาล สายการบินโลว์คอสต์ ที่ตอนนี้ได้ข่าวว่าซื้อกลับมาแล้วในนาม เอเชียเอวิเอชั่น (ถ้าจำชื่อไม่ผิด) จะทิ้งอ่างทองคำใบใหญ่ไปได้อย่างไร
ส่วนใหญ่เป็นส ินค้าที่แสนจะจำเป็นสำหรับชนชั้นกลาง และพวกชนชั้นกลางทั้งนั้นที่ออกมาประท้วงบอยคอต ผมถามง่ายๆ ว่าพวกคุณทิ้งชีวิตชนชั้นกลางในเมืองได้เมื่อไร เมื่อนั้นหละถึงจะทำได้สำเร็จ เอาเป็นว่าถึงจะทำได้ไม่ร้อยเปอร์เซนต์ แต่แค่ทำการเลี่ยงก็ยากแล้ว
จะเห็นว่าเราสนใจการทุจริต การขายชาติเวลานี้กว่าเราจะรู้สึกตัวกันได้ตอนนี้ก็แทบไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ที่เหลือก็จะมีแต่ ชายสี่หมีเกี๊ยว ขนม ลูกชิ้นทอด ที่ยังมีคนไทยตาดำๆ เป็นเจ้าของอยู่
ผมกลัวเหลือเกินว่าถ้าวันหนึ่งผมลืมตาตื่นมาอีกที ประเทศที่ผมยืนอยู่อาจจะกลายเป็นจังหวัดหนึ่งของสิงคโปร์ไปเสียแล้วจะทำอย่างไร
ภาพจากมติชน
http://www.matichon.co.th
09 มี.ค. 25491
MrsJan
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น