ผมเคยเห็นเด็กชาวเขาคนหนึ่งตอนไปบ้านอาดี่ ใส่เสื้อ "มูลนิธิอายิโนโมโต๊ะ" แล้วก็คิดในใจว่า "เฮ้ยมันตั้งมาทำอะไรกันวะเนี่ย" ถ้าความเข้าใจผมไม่คลาดเคลื่อน เข้าใจว่าการตั้งมูลนิธิเป็นเรื่องของการช่วยเหลือ บรรเทา แบ่งเบาภาระรัฐบาลในการช่วยเหลือสังคม ด้วยไม่ได้หวังในสิ่งตอบแทนที่เป็นผลกำไรแล้วบริษัทผลิตผงชูรสแห่งนี้ตั้งขึ ้นมาด้วยจุดประสงค์อะไรกันแน่ วันนี้จะเขียนตอบข้อสงสัยให้กับตัวเอง
ท ุกวันนี้การใช้ผงชูรสเป็นกันไปอย่างแพร่หลายจนแทบจะเรียกได้ว่าร้านค้ากว่า 90% (ประมาณเอาเองแบบปราณี) ใช้ผงชูรสในการประกอบอาหาร เป็นที่รู้กันอยู่ว่าเจ้าผงชูรสนี้มีโทษมหันต์ทั้งระยะยาวและระยะสั้น ในระยะยาวอาจเป็นสารก่อมะเร็งจากการเผาใหม้ด้วยความร้อนในการประกอบอาหาร ส่วนในระยะสั้นจะเกิดอาการวิงเวียน คลื่นไส้ อาเจียน ปากคอแห้ง ซึ่งมีผลมาจากปริมาณโซเดียมที่มากเกินไป
ทีนี้การหลีกเลี่ยงอาจเป็นเ รื่องที่ทำได้ยากในชีวิตประจำวันที่การทำมาหาเลี้ยงชีพได้หลุดออกจากคำว่าทำ มาหากินไปเสียแล้ว เพราะทุกวันนี้เราทำอาชีพที่แยกส่วนจากการทำมาหากินโดยสิ้นเชิง ที่ถึงแม้เราจะหาเงินได้มากเท่าไร เราก็ไม่สามารถที่จะผลิตอาหารเลี้ยงตัวเองได้แล้วเราก็เต็มใจที่จะไม่ทำมัน แล้วเสียด้วย ดังนั้นหนทางเดียวคือการซื้อกินนั่นเอง อาหารจึงเปลี่ยนมาเป็นสินค้า สินค้าต้องทำกำไร การทำกำไรอย่างง่ายอันดับแรกคือลดต้นทุนการผลิต ดังนั้นการใช้ผงชูรสแทนน้ำต้มกระดูกก็ลดต้นทุนได้ไม่เลวเลยทีเดียว
เ มื่อผงวิเศษทำได้ขนาดนี้แล้วใครจะปฏิเสธได้ ถ้าเป็นดั่งที่โฆษณาอวดอ้างจะเห็นว่า "ไม่ว่ามื้อไหนๆ ก็อร่อยกันทุกครัวเรือน" แสดงภาพการประกอบอาหารจากทั่วโลก สุดท้ายต้นตำรับจากญี่ปุ่นก็รวยเป็นเทน้ำจากการขายเจ้าผงตัวนี้ ทีนี้พอเงินทะลักเหลือใช้ ก็เจียดมาว่าจะทำอย่างไรดีเพื่อที่จะให้ภาพลักษณ์ดูดีขึ้น ด้วยการก่อตั้งมูลนิธิ เป็นการฟอกตัวให้ดูดีขึ้น อุปมาเหมือนการแจกผ้าห่มต้านภัยหนาวจากบริษัทเบียร์ การเอาเงินขายหวยมาแจกทุนการศึกษา หรือว่า แหะ แหะ จะบริจาคเงินจากการขายหุ้นมหาศาลส่วนหนึ่งมาก่อตั้งมูลนิธิ มันจึงดูทะแม่งๆ ชอบกล
เพื่อไม่เป็นการพูดข้างเดียวลองฟังความของทาง อายิโนะโมะโต๊ะ ดูบ้าง
http://www.ajinomoto.co.th/th_product_s.shtml
08 มี.ค. 25491
MrsJan
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น