วันนี้ตื่นเช้าเป็นพิเศษเนื่องจากว่าต้องลงมาส่งเพื่อนที่คิดไว้ว่าจะได้มาช่วยทำบ้านสวนเล็กๆ กัน แต่แล้วมันก็ต้องสะดุดนิดหน่อย เพราะ ตอนนี้ก็เหลือเพียงสองคนตายายอีกแล้ว เคยถามกับตัวเองอยู่เหมือนกันว่า เค้าจะอยู่ได้สักกี่เดือน เพราะปกติเธอจะเป็นคนที่ไม่ค่อยอยู่ที่ไหนได้นานๆ อยู่แล้ว ก็ดูเหมือนว่าคราวนี้จะสั้นที่สุดหรือเปล่าเพราะกินเวลาเพียงแค่ไม่ถึง 2 สัปดาห์
เพื่อนคนนี้เป็นคนที่เคยทำงานด้วยกันตั้งกะตอนอยู่เชียงราย บางทีเธอก็เงียบ บางครั้งเธอก็จะเฮฮา บางครั้งเธอก็จะพูดไม่หยุด เหมือนเธอมีอะไรในใจแล้วไม่สามารถนำไปพูดกับใครเค้าได้ ความเพราะเธอเป็นคนที่ อืม บรรยายไม่ถูกเหมือนกัน ถ้าจะให้มองๆ ดู เธอจะชอบอ่านหนังสือเกี่ยวกับ การปฎิวัติเมื่อครั้งกระโน้น ในยุคประชาธิปไตยเบ่งบาน ทำให้มีแนวความคิดจะออกไปทางสังคมนิยมหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ดูเธอหลงไหลเวียดนามนัก หลังจากนั้นไม่กี่เดือน เธอก็ลาออกไปก่อนพวกเราประมาณ 2 เดือน ออกไปอยู่คนเดียวกลางป่าเขาที่เชียงดาว
หลังจากที่พวกเราได้มาอยู่ที่แปดริ้วแล้ว เริ่มทำงานสวน จึงมีความคิดที่จะหาคนมาช่วยงานเพื่อจะได้งานที่เร็วขึ้น ก็นึกถึงคนๆ นี้เป็นคนแรก ก็ตะล่อม Email ไปสอบถามดูว่าสนใจไหม การ Email ไปในครั้งนั้น เราเขียนกันไปมาอยู่หลายครั้ง กว่าที่เธอจะมาถึงได้ก็กินเวลานานเกือบ 2 เดือน เธอขี่รถมอเตอร์ไซต์จากเชียงราย แวะมาช่วยงานมูลนิธิที่อุตรดิตย์ หลังจากนั้น ก็ขี่มาถึงกรุงเทพ เธอทำธุระอีกประมาณ 2 สัปดาห์ก็มาถึงบ้านของเราที่แปดริ้ว เรียกได้ว่าเราก็ลุ้นอยู่เหมือนกันว่าเธอจะมีเรื่องให้เปลี่ยนใจกระทันหันอะไรหรือเปล่า แต่ในที่สุดก็มาจนได้ ก็รู้สึกประหลาดใจ ปนดีใจอยู่นิดๆ
ใช้เวลาไม่นานจนถึงวันนี้ เธอขี่มอเตอร์ไซต์คู่กายสู่มุกดาหารบ้านเกิด แรงงานคนสำคัญของเราต้องไปอีกแล้วด้วยเหตุจำเป็นทางบ้านบางประการ คงเป็นครั้งแรกกับความรู้สึกของคนที่ต้องอยู่ต่อไปเมื่อมีคนมาช่วยทำงานแล้วก็ไป ว่ามันรู้สึกอย่างไรก็วันนี้เอง
MrsJan
11 ส.ค. 2549
11 สิงหาคม 2549
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น