วันนี้ไปโรงพยาบาลจะไปฝากครรภ์ หมายมั่นว่าจะใช้ประกันสังคม ปรากฏว่าจ่ายติดต่อกันไม่ถึง 7 เดือน เลยอด ทำให้สงสัยว่าไอ้ที่เคยจ่ายๆ มาตลอด 3 ปี ที่ทำงานเก่า ทำไมมันถึงไม่เอามาคิดด้วยฟระหรือเป็นเพราะปล่อยให้อายุประกันขาดช่วงทำให้ต ้องมานับหนึ่งใหม่
พูดถึงประกันสังคมแล้วยังเจ็บใจไม่หาย มารู้ทีหลังว่าหลังจากการว่างงานจะได้รับเงินเป็น % ของเงินเดือน กรณีลาออกโดยสมัครใจจะได้รับ 3 เดือน กรณีถูกไล่ออกจะได้รับ 6 เดือน ทำให้ออกจะสงสัยว่าบรรดาพวกที่ออกจากงานที่ผ่านมานั้น ได้รู้ถึงสิทธิประโยชน์ข้อนี้หรือไม่หรือที่แท้เรามันโง่เองไม่รู้อยู่คนเดี ยว
จำเลยที่หนึ่งของเรื่องนี้คือผมที่ไม่รู้จักหาความรู้ใส่ตัว ส่วนจำเลยร่วมของเรื่องนี้คือ HR (Human Resource) เป็นที่น่าเสียดายที่คนทำหน้าที่ด้านนี้ ที่ควรจะให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์หรือแม้แต่ว่าสิทธิประโยชน์อื่นใด ของเหล่าพนักงานเอง ให้ทุกคนได้ทราบหรือเมื่อถึงเวลาก็ต้องเสนอตัวตักเตือนและให้คำปรึกษา
ในขณะที่ใครก็ตามลาออกจากงาน นั่นหมายถึงว่าถึงเวลาแล้วที่จะบอกให้ผู้ออกจากงานได้รับทราบและนำเสนอข้อมูลตรงนี้ให้ หลังจากที่ทำหน้าที่ดูแลพนักงานมาตลอด เป็นการปิดหน้าที่ครั้งสุดท้ายอย่างสมบูรณ์ของ HR ให้กับพนักงานคนนั้นๆ
ในกรณีของผมไม่มีอย่างที่ว่ามา ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนนี้เป็นอย่างไร พัฒนาไปถึงไหนแล้ว ถ้ายังไม่มีก็ขอฝากสารนี้ส่งไปถึง HR IBN คนปัจจุบันด้วยนะครับ
ข้อมูลกรณีว่างงาน
http://www.sso.go.th/benefit/unemployed1.asp
18 มี.ค. 2549
Mrsjan
18 มีนาคม 2549
"นับถอยหลังสู่สถานะใหม่ของชีวิต" (Count Down)
นับถอยหลังไปอีก 8 เดือน เป็น 8 เดือนที่จะนำความเปลี่ยนแปลงให้กับชีวิตอีกครั้ง ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะเร็วขนาดนี้ ถึงจะเร็วไปหน่อยแต่ก็พร้อมเสมอ ถ้าความพร้อมในคติของชนชั้นกลางที่สะท้อนออกจากโฆษณาในโทรทัศน์นั้น อย่างผมนี่คงไม่เรียกว่าพร้อมซักเท่าไร เพราะอย่างน้อยผู้ชายต้องมีรถก่อน แล้วดาวน์บ้านสักหลัง จองโรงแรมแต่งงาน แหวนเพชรสักวงแล้วบอกรักที่เมืองนอก (55 กรูไม่มีสักอย่าง)
ความพร้อมในความคิดของผมนั้นความพร้อม คือ ความมีปัญญาบ่มเพาะ สั่งสอน หรือ อื่นใดที่จะทำให้ชีวิตที่เกิดใหม่นั้นอยู่รอดต่อไปได้ อย่างมีคุณค่าสูงสุด เท่านี้คิดว่าเพียงพอแล้วสำหรับพ่อคนนึง ส่วนเรื่องมารยาทอื่นใดยกให้เป็นเรื่องของแม่เค้าละกันเพราะพ่อไม่เคยได้รับ การสั่งสอนมาก่อน ถึงได้มารยาททรามอยู่ทุกวันนี้ แก้ก็ยากอีกต่างหาก
ค่อนข้างจะรู้สึกขัดเขินนิดหน่อยที่มีการเรียกตัวเองว่าพ่อหรือแม่แล้ว สถานะถูกขยับขึ้นรวดเร็วจริงๆ เหมือนกำลังเข้าสู่วัยกลางคนเข้าไปทุกที กลัวว่าต่อจากนี้ไปจะแก่แล้วแก่เลยหรือเปล่า ความคิดจะทันสมัยตามลูกทันหรือไม่ อันนี้เป็นความกังวลที่อีกไม่นานก็คงจะได้เจอ
18 มี.ค. 2549
MrsJan
ความพร้อมในความคิดของผมนั้นความพร้อม คือ ความมีปัญญาบ่มเพาะ สั่งสอน หรือ อื่นใดที่จะทำให้ชีวิตที่เกิดใหม่นั้นอยู่รอดต่อไปได้ อย่างมีคุณค่าสูงสุด เท่านี้คิดว่าเพียงพอแล้วสำหรับพ่อคนนึง ส่วนเรื่องมารยาทอื่นใดยกให้เป็นเรื่องของแม่เค้าละกันเพราะพ่อไม่เคยได้รับ การสั่งสอนมาก่อน ถึงได้มารยาททรามอยู่ทุกวันนี้ แก้ก็ยากอีกต่างหาก
ค่อนข้างจะรู้สึกขัดเขินนิดหน่อยที่มีการเรียกตัวเองว่าพ่อหรือแม่แล้ว สถานะถูกขยับขึ้นรวดเร็วจริงๆ เหมือนกำลังเข้าสู่วัยกลางคนเข้าไปทุกที กลัวว่าต่อจากนี้ไปจะแก่แล้วแก่เลยหรือเปล่า ความคิดจะทันสมัยตามลูกทันหรือไม่ อันนี้เป็นความกังวลที่อีกไม่นานก็คงจะได้เจอ
18 มี.ค. 2549
MrsJan
17 มีนาคม 2549
2 ข่าวจากเพื่อนบ้าน
ข่าวแรก
นายกรัฐมนตรีแห่งเกาหลี ลาออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผล เอาเวลาที่ควรจะต้องปฏิบัติงานไปตีกอล์ฟ !! เหตุเกิดการประท้วงจากกลุ่มผู้ชุมนุมเรื่องการรถไฟอะไรสักอย่าง ภายในวันเดียวกัน นายกเกาหลีได้ไปออกรอบตีกอล์ฟ ถือเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่สมควรลาออกจากตำแหน่ง
นายกเกาหลีนี่เค้าหน้าบางครับ หึหึ แต่ของเราน่ะหน้าเหลี่ยม ไม่ยอมออกง่ายๆ ร้อก
ข่าวหลัง
สิงคโปร์สั่งขังเลขาธิการฝ่ายค้านพรรคประชาธิปไตย นาย ซี จุน จวน โดนฟ้องข้อกล่าวหา หมิ่นประมาทศาล ที่นายคนนี้กล่าวหาว่าศาลไม่เป็นกลางเวลาพิจารณาคดีฝ่ายค้านและไม่เป็นอิสระ
ผมเคยรับทราบมาว่า สิงคโปร์ มี สส. พรรคฝ่ายค้านอยู่เพียงเสียงเดียว เท่านั้น พอพูดถึงสิงคโปร์ว่ามีฝ่ายค้านในสภา อยู่เพียงคนเดียวแล้วตกใจ ประเทศนี้ปกครองด้วยเผด็จการเสียงข้างมากพรรคเดียว อ่านข่าวนี้แล้วเหมือนโดนรังแกจากเสียงข้างมากยังไงก็ไม่รู้ แต่คนสิงคโปร์ก็ยังกล้ำกลืนฝืนทนต่อไปได้อาจจะเป็นเพราะรัฐบาลสิงคโปร์ไม่มี ข่าวคอรัปชัน อีกทั้งยังแข็งขันในการหาเงินเข้าประเทศ (โดยการไปซื้อชาติอื่น) เปรียบกับในเมืองไทย นายกไทยคนปัจจุบันก็พยายามจะทำอย่างเดียวกันกับสิงคโปร์แต่ทำไม่ได้ เพราะ ไม่เก่งเท่าเค้าแถมยังอวดดีคิดว่าตัวเองเก่ง อีกทั้งยังช่วยกันขมักเขม้นเขมือบประเทศ พร้อมขายประเทศให้ชาติอื่น
ของไทยถ้าไม่มีข่าวคอรัปชัน รัฐบาลเราอาจจะยังพอไปได้ ถึงแม้จะมีเสียงท้วงติงนิดๆ หน่อยๆ เกี่ยวกับนโยบาย แต่ก็จะไม่สามารถส่งผลสะเทือนได้ถึงขนาดนี้
17 มี.ค. 2549
MrsJan
นายกรัฐมนตรีแห่งเกาหลี ลาออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผล เอาเวลาที่ควรจะต้องปฏิบัติงานไปตีกอล์ฟ !! เหตุเกิดการประท้วงจากกลุ่มผู้ชุมนุมเรื่องการรถไฟอะไรสักอย่าง ภายในวันเดียวกัน นายกเกาหลีได้ไปออกรอบตีกอล์ฟ ถือเป็นการบกพร่องต่อหน้าที่สมควรลาออกจากตำแหน่ง
นายกเกาหลีนี่เค้าหน้าบางครับ หึหึ แต่ของเราน่ะหน้าเหลี่ยม ไม่ยอมออกง่ายๆ ร้อก
ข่าวหลัง
สิงคโปร์สั่งขังเลขาธิการฝ่ายค้านพรรคประชาธิปไตย นาย ซี จุน จวน โดนฟ้องข้อกล่าวหา หมิ่นประมาทศาล ที่นายคนนี้กล่าวหาว่าศาลไม่เป็นกลางเวลาพิจารณาคดีฝ่ายค้านและไม่เป็นอิสระ
ผมเคยรับทราบมาว่า สิงคโปร์ มี สส. พรรคฝ่ายค้านอยู่เพียงเสียงเดียว เท่านั้น พอพูดถึงสิงคโปร์ว่ามีฝ่ายค้านในสภา อยู่เพียงคนเดียวแล้วตกใจ ประเทศนี้ปกครองด้วยเผด็จการเสียงข้างมากพรรคเดียว อ่านข่าวนี้แล้วเหมือนโดนรังแกจากเสียงข้างมากยังไงก็ไม่รู้ แต่คนสิงคโปร์ก็ยังกล้ำกลืนฝืนทนต่อไปได้อาจจะเป็นเพราะรัฐบาลสิงคโปร์ไม่มี ข่าวคอรัปชัน อีกทั้งยังแข็งขันในการหาเงินเข้าประเทศ (โดยการไปซื้อชาติอื่น) เปรียบกับในเมืองไทย นายกไทยคนปัจจุบันก็พยายามจะทำอย่างเดียวกันกับสิงคโปร์แต่ทำไม่ได้ เพราะ ไม่เก่งเท่าเค้าแถมยังอวดดีคิดว่าตัวเองเก่ง อีกทั้งยังช่วยกันขมักเขม้นเขมือบประเทศ พร้อมขายประเทศให้ชาติอื่น
ของไทยถ้าไม่มีข่าวคอรัปชัน รัฐบาลเราอาจจะยังพอไปได้ ถึงแม้จะมีเสียงท้วงติงนิดๆ หน่อยๆ เกี่ยวกับนโยบาย แต่ก็จะไม่สามารถส่งผลสะเทือนได้ถึงขนาดนี้
17 มี.ค. 2549
MrsJan
"ข้อเสนอที่ไม่เคยตอบรับ" (Reject)

อยากจะไล่เลียงมาเลยตั้งแต่ม็อบสนธิใหม่ๆ สนธิได้เคยท้าลักษณะทำนองนี้แล้วหลายต่อหลายครั้งหรือแม้แต่ก่อนหน้าก็เคยมี คนเคยท้า (จำไม่ได้แล้วว่าใคร) ว่า ขอให้เชิญผมหรือใคร ไม่ว่าจะเป็นนายธีรยุทธหรือใครก็ได้ ให้ไปออกรายการ นายกทักษิณคุยกับประชาชน คู่กับนายกฯ แล้วให้คุยกันสดๆ เพื่อวิเคราะห์หรือแม้กระทั่งการจับผิด โต้แย้งข้อสงสัย แล้วมีการท้าลักษณะนี้อีกหลายต่อหลายครั้ง แต่ก็ไม่ได้มีเสียงตอบรับแต่อย่างใด
กลัวโทรทัศน์เหลือเกินนะครับ แต่ก็ไม่แปลกเพราะตัวเองก็เคยพูดไว้ว่าโทรทัศน์นั้นเป็นสื่อที่ทรงประสิทธิภ าพมากที่สุด เข้าถึงประชาชนได้มากที่สุด ดังนั้นวิธีที่จะนำพาตัวเองไปสู่จุดจบคงไม่มีทางรับเด็ดขาด เพราะ นายคนนี้ชอบการสื่อสารข้างเดียว โดยที่ไม่ต้องการให้ใครมาโต้แย้งทันทีทันใด เพราะ หลายเรื่องนั้นตอบไม่ได้!! แต่การพูดผ่านวิทยุก็ดี จดหมายเปิดผนึกก็ดี รวมพลคนรักทักษิณก็ดี ล้วนแล้วแต่มีจุดร่วมที่เหมือนกันก็คือ พูดได้โดยที่ไม่มีใครมาคอยโต้แย้งซึ่งจะเป็นการป้องกันการหน้าแหกได้อย่างดีทีเดียว
อันที่จริง ผมอยากเสนอว่า ไม่ต้องกลัวหรอกครับว่า ถ้าหน้าแหกแล้วจะไม่มีคนเชื่อถือ ถึงแม้นายกจะตอบไม่ได้ แต่ผมก็มั่นใจว่าคะแนนเสียงท่านคงจะไม่ตกไปสักเท่าไร เพราะเรื่องพวกนี้ใครๆ ก็รู้กันอยู่แล้วว่าท่านน่ะ ขี้ฉ้อ โกหกเก่งก็ที่หนึ่ง แต่คะแนนเสียงที่สนับสนุนท่านนั้นเป็นเสียงสนับสนุนที่ แม้ว่าผู้นำจะขี้ฉ้อขนาดไหนก็ยังให้อภัยกันได้ ขอเพียงแค่ให้ได้สมประโยชน์ซึ่งกันและกันอย่างที่เป็นอยู่ฐานเสียง (โดยเฉพาะต่างจังหวัด) ก็พร้อมจะสนับสนุนท่านอยู่แล้ว มันเกิดจากความคิดที่ว่า "พวกเราไม่ได้โง่นะ แต่พวกเรายอมรับได้ นิดๆ หน่อยๆ เราไม่สนหรอกท่านจะทำอะไร ขอให้ผลประโยชน์ตกถึงพวกเราก็พอแล้ว ประชาธิปไตยหรือจริยธรรมมันไม่ได้ทำให้กรูอิ่มท้องหรอกเว้ย" โดยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่า ไอ้นิดหน่อยนั้นอาจจะส่งผลให้เหลือแค่คำว่า Thailand ปรากฏอยู่บนแผนที่โลกในฐานะกรุงเก่าเท่านั้นเอง
นี่เป็นความแตกต่างที่ว่าเสียงสนับสนุนมักจะมาจากคนต่างจังหวัด เสียงต่อต้านมักจะมาจากคนกรุง เพราะ โดยพื้นฐานนั้นแตกต่างกันอย่างยิ่ง ดังนั้นทฤษฎี "สองนัคราประชาธิปไตย" ยังคงใช้การได้เสมอ ตราบเท่าที่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจและความคิดที่แตกต่างกันอย่างมากระหว่า งคนกรุงและคนชนบท การที่จะล้มล้างทฤษฎีนี้ได้ คือ ต้องบีบความแตกต่างระหว่างเมืองกับชนบทให้แคบลง ซึ่งผมมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ชั่วชีวิตนี้ผมคงไม่มีทางได้เห็น
รูปภาพประกอบจาก
กรุงเทพธุรกิจ
17 มี.ค. 2549
MrsJan
16 มีนาคม 2549
"นักเจาะระบบ" (Cracker)

เรื่องปัญหาของทักษิณ ณ.เวลานี้อาจคลี่คลายลงไปได้ในไม่ช้าแล้ว เพราะแนวโน้มและทางออกที่เป็นอยู่ปัจจุบันนี้ ทักษิณไม่มีทางอยู่ต่อได้อีกแน่นอน ไม่จำเป็นต้องเลือกตั้งให้เสียเวลาให้เสียเงินเสียทองไปเปล่าๆ วันนี้ไป download เอกสารล่ารายชื่อของ อมธ. กะว่าจะส่งไปด้วยแต่เท่าที่ดูตอนนี้อาจจะไม่จำเป็น ไม่แน่ว่าส่งไปก็อาจจะไม่ทันได้ใช้ นายก ก็ชิงลาออกซะก่อนแล้ว
ผมจะล องคิดถึงก้าวต่อไป หลังจากไม่มีทักษิณนั่งเป็นประธานแล้ว ถึงแม้ว่าจะมีการปฏิรูปการเมืองกันอีกรอบ โดยเอาทักษิณเป็นโจทย์ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ (งานนี้ไม่มีทักษิณก็ไม่เห็นช่องโหว่ ต้องขอบคุณท่านมากๆ) ผมทำนายเอาไว้ได้เลยว่า เราอาจจะป้องกันได้แค่ทักษิณและกรณีแบบทักษิณ แล้วคิดหรือว่าเราจะป้องกันคนอย่างทักษิณไม่ให้กลับเข้ามาสู่วงจรเดิมๆ อีกได้ เพราะ ไม่ว่าเราจะแก้ไขให้มันรัดกุมอย่างไร ยังไงๆ ก็ต้องมีช่องโหว่เข้าอีกจนได้ เพราะ พฤติกรรมของนักปกครองไทยคือเล่นการเมืองเพื่อนำไปสู่อำนาจทางการค้า ฉะนั้นอะไรเป็นอุปสรรคก็ต้องหาทางเลี่ยงทุกวิถีทาง เหมือนๆ กับ ระบบ computer ที่ไม่ว่าจะอุดช่องโหว่อย่างไรก็ไม่มีทางหมด เมื่อไรที่มีคนเจาะเข้ามาใหม่ ก็อุดรูรั่วตรงนั้น แล้วก็มีคนใหม่ๆ เจาะเข้ามาด้วยหนทางใหม่ๆ อีก เป็นวงจรอุบาทว์ที่ไม่มีวันจบสิ้น
พฤต ิกรรมและความแนวความคิดของคนอย่างทักษิณ ไม่รู้ว่ารู้ตัวหรือไม่ว่าอาชีพที่ตัวเองทำเป็นงานอาสา (ไม่ใช่แค่คำพูด) ไม่แน่อาจจะคิดว่าอาชีพนักการเมืองเป็นอาชีพที่จำเป็นสำหรับนักธุรกิจที่ต้อ งการจะต่อยอดธุรกิจจากที่เป็นอยู่และความคิดแบบนี้มันก็อาจจะแพร่หลายไปสู่ นักธุรกิจไทยทุกหย่อมหญ้าแล้วกระมัง
* ในที่นี้ผมไม่ได้หมายถึงว่าทักษิณจะทำเพื่อความร่ำรวยของตัวเอง (เพราะไม่เคยคิดว่าคนไม่รู้จักพอจะมีจริง) แต่เป็นเพราะปล่อยให้คนรอบข้างใช้ประโยชน์จากการที่ตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีม ากกว่า
16 มี.ค. 2549
MrsJan
14 มีนาคม 2549
"มันขึ้นสองขีด" (New Life)
เรื่องใหญ่ของวันนี้สำหรับผมคงไม่ใช่ D-Day (อีกแล้ว) ของม็อบที่จะประกาศล้อมทำเนียบยืดเยื้อในวันนี้
ว ันนี้เราตั้งใจลากิจแบบว่าเหตุผล คือ ขี้เกียจไปทำงาน หลังจากที่เราออกทำธุระข้างนอก ไปเตรียมซื้อเครื่องครัวเข้าบ้านเพื่อเตรียมประกอบอาหารทานกันเอง เพราะต้องการทางเลือกในการบริโภคมากขึ้น ไอ้ที่มีขายกันอยู่ก็จำกัดรูปแบบซะมากแล้วคุณค่าทางอาหารก็น้อยนิด
ข ากลับเราติดอุปกรณ์ชนิดหนึ่งกลับมาบ้านด้วย ภรรยาผมจัดแจงใช้งานมันอย่างเงียบๆ หลังจากนั้น 3 นาทีผมก็ได้ยินเสียงเรียกยาวๆ พร้อมอุปกรณ์ชิ้นนั้นในมือของภรรยาผม
เค้าหันมาแล้วบอกผมว่า "มันขึ้นสองขีด"
14 มี.ค. 2549
ว ันนี้เราตั้งใจลากิจแบบว่าเหตุผล คือ ขี้เกียจไปทำงาน หลังจากที่เราออกทำธุระข้างนอก ไปเตรียมซื้อเครื่องครัวเข้าบ้านเพื่อเตรียมประกอบอาหารทานกันเอง เพราะต้องการทางเลือกในการบริโภคมากขึ้น ไอ้ที่มีขายกันอยู่ก็จำกัดรูปแบบซะมากแล้วคุณค่าทางอาหารก็น้อยนิด
ข ากลับเราติดอุปกรณ์ชนิดหนึ่งกลับมาบ้านด้วย ภรรยาผมจัดแจงใช้งานมันอย่างเงียบๆ หลังจากนั้น 3 นาทีผมก็ได้ยินเสียงเรียกยาวๆ พร้อมอุปกรณ์ชิ้นนั้นในมือของภรรยาผม
เค้าหันมาแล้วบอกผมว่า "มันขึ้นสองขีด"
14 มี.ค. 2549
"กาเบอร์อะไร" (Choice?)
วันนี้ขี่มอไซต์ไปทางไหน ก็เห็นป้ายหาเสียงอยู่ทุกๆ ครึ่งเสาไฟฟ้า พรรคอะไรก็ไม่รู้หาเสียงอยู่พรรคเดียวก็ได้ด้วย ทำให้เลือกตั้งที่จะถึง 2 เม.ย. เราจะไปทำหน้าที่อะไรกัน ทางเลือกก็คือเอา (เลือกไทยรักไทย) กับไม่เอา (เลือกไม่ออกเสียง) ไทยรักไทย ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าเอาหรือไม่เอา ทักษิณ ตะหาก
นอกจากนี้ระหว่างทางก่อนเลือกตั้ง 2 เม.ย. ก็วุ่นวายพอดู มีการลอบบี้ผู้สมัครลูกกระจิบให้ลงสมัครเพื่อที่ตัวเองจะได้มีคู่แข่งเพื่อป ลดล็อกคะแนนเสียงที่ได้ในบางเขตที่อาจจะไม่ถึง 20% (โดยเฉพาะปักษ์ใต้บ้านเรา)
ตั้งแต่มี ส.ส. ปาตี้ลิสต์พรรคไทยรักไทย ลาออกไปบวช งานลอบบี้เลยหนักกว่าเก่า คราวนี้นอกจากจะต้องหาผู้สมัครจากพรรคอื่นมาลงแข่งแล้ว ยังต้องทำให้พวกพรรคกระจิ๊บกระจ้อยเหล่านั้น ได้รับเลือกปาร์ตี้ลิสต์เข้ามาบ้างอย่างน้อยก็ 5% ของจำนวนผู้ออกเสียงเลือกตั้งทั้งหมด เพื่อเอามาอุด พระเปม ที่ลาออกไป ไม่อย่างนั้นสภาก็จะเปิดไม่ได้
เป็นการเมืองที่เต้นรำอยู่คนเดียว แทนที่จะหาทางชูนโยบายของตัวเองเพื่อให้ได้รับเลือกแต่กลับต้องหาทางทำอย่าง ไรให้พรรคอื่นๆ ได้รับเลือกบ้าง (แล้วก็ทำจริงๆ ซะด้วยสิ 55) ไม่นานเราคงเห็นป้ายหาเสียงพรรคเกษตรกรไทย มีรูปหัวหน้าพรรคไทยรักไทยยืนอยู่ข้างๆ แล้วเขียนว่า "ถ้าอยากให้ผมทำงานต่อ โปรดกาเบอร์ ... พรรคเกษตรกรไทย!!"
ผมติดตามเ รื่องเหล่านี้แล้วก็ได้แต่อนาจการเมืองไทยและพรรคการเมืองที่ใหญ่ท ี่สุดของประเทศ น่าอายเสียจริงๆ อยากรับใช้ประชาชน จนตัวสั่น
รู้อย่างนี้แล้วจะกาเบอร์อะไร คำตอบก็คงมีแค่ 2 ทางอย่างที่ว่าไว้ข้างต้น
14 มี.ค. 2549
นอกจากนี้ระหว่างทางก่อนเลือกตั้ง 2 เม.ย. ก็วุ่นวายพอดู มีการลอบบี้ผู้สมัครลูกกระจิบให้ลงสมัครเพื่อที่ตัวเองจะได้มีคู่แข่งเพื่อป ลดล็อกคะแนนเสียงที่ได้ในบางเขตที่อาจจะไม่ถึง 20% (โดยเฉพาะปักษ์ใต้บ้านเรา)
ตั้งแต่มี ส.ส. ปาตี้ลิสต์พรรคไทยรักไทย ลาออกไปบวช งานลอบบี้เลยหนักกว่าเก่า คราวนี้นอกจากจะต้องหาผู้สมัครจากพรรคอื่นมาลงแข่งแล้ว ยังต้องทำให้พวกพรรคกระจิ๊บกระจ้อยเหล่านั้น ได้รับเลือกปาร์ตี้ลิสต์เข้ามาบ้างอย่างน้อยก็ 5% ของจำนวนผู้ออกเสียงเลือกตั้งทั้งหมด เพื่อเอามาอุด พระเปม ที่ลาออกไป ไม่อย่างนั้นสภาก็จะเปิดไม่ได้
เป็นการเมืองที่เต้นรำอยู่คนเดียว แทนที่จะหาทางชูนโยบายของตัวเองเพื่อให้ได้รับเลือกแต่กลับต้องหาทางทำอย่าง ไรให้พรรคอื่นๆ ได้รับเลือกบ้าง (แล้วก็ทำจริงๆ ซะด้วยสิ 55) ไม่นานเราคงเห็นป้ายหาเสียงพรรคเกษตรกรไทย มีรูปหัวหน้าพรรคไทยรักไทยยืนอยู่ข้างๆ แล้วเขียนว่า "ถ้าอยากให้ผมทำงานต่อ โปรดกาเบอร์ ... พรรคเกษตรกรไทย!!"
ผมติดตามเ รื่องเหล่านี้แล้วก็ได้แต่อนาจการเมืองไทยและพรรคการเมืองที่ใหญ่ท ี่สุดของประเทศ น่าอายเสียจริงๆ อยากรับใช้ประชาชน จนตัวสั่น
รู้อย่างนี้แล้วจะกาเบอร์อะไร คำตอบก็คงมีแค่ 2 ทางอย่างที่ว่าไว้ข้างต้น
14 มี.ค. 2549
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)