25 มีนาคม 2549

ไม่ทันเลือกตั้ง

สุดท้ายแล้วถึงวันนี้ มองตามรูปการณ์แล้วอาจจะมีการเลือกตั้งในวันที่ 2 เพราะ "อั๊ว ไม่ออก" หนักแน่น หนาทนทานดีเหลือเกิน งานนี้อยากไปใช้สิทธิมาก แต่ไม่ทันแจ้งสิทธิออกเสียงล่วงหน้า เนื่องจากไม่มีประสบการณ์ อยู่ต่างถิ่นช่วงเลือกตั้งมาก่อน จะให้กลับไปก็ไม่สะดวก เอาเป็นว่ารอไปเลือก ส.ว. ที่จะตามเลยเลยละกัน งานนี้ต้องไม่พลาด เดี๋ยวจะเสียสิทธิทางการเมืองไปอีก 4 ปี

การเลือก ตั้งล่วงหน้าให้ไปแจ้งเหตุต่อนายทะเบียนอำเภอ หรือนายทะเบียนท้องถิ่น ก่อนวันเลือกตั้งไม่น้อยกว่า 7 วัน และสำหรับใครที่พลาดการเลือกตั้งครั้งนี้แล้วไม่อยากเสียสิทธิทางการเมือง หลังจากวันเลือกตั้ง 30 วัน จะมีการประกาศรายชื่อผู้ไม่ไปใช้สิทธิ ให้ไปแจ้งเหตุต่ออำเภอหรือเทศบาลภายใน 60 วันหลังจากวันประกาศ จะได้ไม่เสียสิทธิทางการเมือง 8 ประการ ไปอีกจนกว่าจะถึงเลือกตั้งครั้งหน้า

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม
www.ect.go.th

25 มี.ค. 2549
MrsJan

22 มีนาคม 2549

พลังบริสุทธิ์ที่สวนจตุจักร

สองนคราประชาธิปไตยที่ส่งผลรุนแรงที่สุดอย่างที่ไม่เคยมีมาก็คราวนี้แหละ ต่างฝ่ายต่างก็เป็นพลังบริสุทธิ์ด้วยกันทั้งสิ้น (ขอเหมารวมเอาเฉพาะที่บริสุทธิ์จริงๆ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง) ทั้งม็อบจตุจักรและม็อบสนามหลวง ล้วนแล้วแต่เรียกร้องสิ่งที่ตัวเองเห็นว่าถูกต้องและสมควรทำ

คนจนๆ จะเลือกได้หรือว่าจะให้ประเทศไปทางไหน ขอแค่ทางไหนก็ได้ที่ทำให้พวกเค้า ดูแลมีความหวังขึ้นมาบ้าง ในขณะที่คนมีอันจะกินที่สนามหลวง ย่อมมองห่วงไปข้างหน้าในสิ่งที่จับต้องไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ประชาธิปไตย อนาคตลูกหลาน อนาคตประเทศไทย จริยธรรม เพราะตัวเอง ณ.ปัจจุบัน ไม่เดือดร้อนเรื่องปากท้องแล้ว

พวกเรา (ชนชั้นกลาง) หรือ โลกาภิวัฒน์ กันแน่ที่ทำให้คนอีกกลุ่มหนึ่งที่จตุจักรไม่มีทางเลือก การพัฒนาที่ผิดทิศผิดทางมาตั้งแต่ต้นและมาหนักสุดๆ ก็ในยุคนี้ ที่หัวหน้ารัฐบาลเองยังยอมศิโรราบต่อทุนและอ้าแขนต้อนรับโลกาภิวัฒน์อย่างหน ้าชื่น

ความแตกต่างจริงๆ ของความแตกแยกในครั้งนี้ เรื่องความรู้และการเข้าถึงข่าวสารไม่เท่าเทียมกันนั้นเป็นปัจจัยหนึ่ง ส่วนอีกปัจจัยคือทางเลือกอันน้อยนิดของกลุ่มคนระดับล่างที่มารวมตัวกันที่จต ุจักร ทั้งม็อบแทกซี่และม็อบมอเตอร์ไซต์รับจ้าง

ยอมรับว่าไม่เคยมีรั ฐบาลไหนได้ให้โอกาสทางเลือก ให้กับพวกเค้าได้มากเท่านี้มาก่อน ทั้งทางเลือกในการเข้าถึงแหล่งทุน ทางเลือกในการรักษาพยาบาล ทางเลือกในการศึกษา และ อื่นๆ

นอกเหนือจากความรู้ความเข้าใจแล้ว เราควรจะพาเขาออกจากปัญหาปากท้องให้ได้ก่อนเป็นอันดับแรกใช่หรือไม่ พวกเราสบายกันพอแล้วหรือยัง

22 มี.ค. 2549
MrsJan

"โทษของการทุบหม้อข้าวคือตายสถานเดียว"


กลายเป็นข่าวใหญ่หน้าหนึ่งทันที ข่าวคนบ้าทุบพระพรหมโรงแรมเอราวัณ น่าสังเกตว่าทุกคนออกมาแสดงความตกใจกันยกใหญ่ ไหนจะเร่งสร้างให้เสร็จใน 2 เดือน อู่ข่าวอู่น้ำถูกทำลาย สิ่งที่คนนับหน้าถือตาถูกทำลายลง ไหนจะนักท่องเที่ยวหมุนเวียนมาสักการะบูชาเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน ฯลฯ

ยอดบริจาคศาลพระพรหมนี้เป็นเงินร้อยๆ ล้าน รูปปูนปั้นที่ไม่มีชีวิตจิตใจแต่กลับครอบงำคนที่มีชีวิตจิตใจให้กลายเป็นเหม ือนสิ่งไม่มีชีวิตที่คิดแยกแยะอะไรไม่ได้ ขาดสติถึงขั้นลงมือฆ่าคน จะด้วยเหตุผลลึกๆ อะไรไม่รู้ หลายคนในข่าวหรือผู้เกี่ยวข้องแทบไม่ได้เอ่ยถึงคนที่ได้ตายไปอย่างอนาถเลย แถมยังมีความเห็นลักษณะว่าคนทำก็ได้รับกรรมไปแล้ว

รูปปูนปั้นสามารถเนรมิตรใหม่ได้ภายใน 2 เดือน แต่ชีวิตคนนั้นไม่มีวันกลับคืน กรรมของการทำลายรูปปูนปั้นคือความตายอย่างนั้นหรือ

22 มี.ค. 2549
MrsJan

20 มีนาคม 2549

"~นี่คือทักษิณ ขอแทนบุญคุณแผ่นดิน~" (Speech)


ว ันนี้รีบกลับบ้านไปดูการปราศรัยหาเสียงของพรรคการเมืองที่ลงเล่นอยู่พรรค เดียว เล่นเอง ชงเอง ไม่มีใครเล่นด้วย ขณะเดินทางกลับผ่านหมู่บ้านมีการเกณฑ์ ชาวบ้านขึ้นรถกระบะกันไปเป็นคันรถ สอบถามคนที่หมู่บ้านจะแลได้ความว่าปกติเค้าจะจ่ายให้คนละ 200 มาฟังปราศรัย ภายในงานเหมือนงานวัดย่อมๆ ส่วนใหญ่มีแต่ชาวบ้าน ชาวเขา ชาวดอย หลายคนถือธงชาติ เด็กน้อยก็ถือธงชาติ โบกธงชาติ ส่วนอีกด้าน 1 ม็อบสนามหลวงก็ใช้ธงชาติ ใส่เสื้อ ผ้าคาดหัว กู้ชาติ ดูเหมือนทั้ง 2 ฝ่าย จะใช้งานเจ้าชาตินี้กันพร่ำเพรื่อเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ถ้าต่างฝ่ายต่างรักชาติแล้วจะมีใครไม่รักชาติล่ะ

นโยบายไม่มีอะไร ก็มีแต่แจกกับแจกเช่นเดิม เสียดายงานนี้ท่านอู้คำเมือง ฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไร ได้ยินบางประโยคจับใจความได้ว่า "จะแจกโน็ตบุ๊คให้เด็กนักเรียนใช้ไฮเทคกันถ้วนหน้า ผมอยากให้พี่น้องมีเงินใช้"

ผมดูแล้วเป็นการหาเสียงที่ประหลาดที่สุด ในประวัติศาสตร์ เพราะในขณะเดียวกันก็โดนโห่ไล่อยู่ที่กรุงเทพ แต่ยังเดินหน้าหาเสียงอยู่ได้พรรคเดียวอย่างหน้าตาเฉย

วันนี้อ่านงาน สัมภาษณ์ของหมอเลี้ยบ 1 ในคนเดือนตุลา ที่ถูกหลายฝ่ายตรีตราว่าเป็นลิ่วล้อไปเสียแล้ว บางทีก็ไม่เข้าใจว่าคนเหล่านี้คิดอะไรหรือมีอะไรที่เราไม่รู้ ผมไม่เชื่อว่าอุดมการณ์คนเราจะเปลี่ยนกันได้ง่ายๆ เพราะ ท่านก็ยังยืนยันไม่แปรเปลี่ยนว่าได้ทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อมั่นและถูกต้อง ถ้าเป็นทักษิณผมอาจจะไม่เชื่อเพราะไม่เคยมีอุดมการณ์อะไรกับเค้าอยู่แล้ว และนี่คือด้านบวกที่ผมเอามากลบด้านลบให้ได้บ้างอย่างน้อยในความเป็นทรราชก็ย ังมีเครดิตของคนเดือนตุลาอยู่ข้างกาย

ผมเอาบางท่อนของเพลงที่เค้าใช้ เปิดตอนเลิกมาฝาก "~นี่คือทักษิณ ขอแทนบุญคุณแผ่นดิน ... ไม่เคยจะท้อ แม้โดนใส่ร้ายยยย อดทนไว้ สู้ต่อไป คนของแผ่นดิน~"

แต่งโดยพี่กี้ อริสมันต์
-_-'

20 มี.ค. 2549
MrsJan

"ประเทศนี้ยังพอมีหวัง" (Hope)

แต่ก่อนผมเคยคุยกับแม่ว่า ถ้ายุคต่อสู้ทาง สังคม การเมืองและความอยุติธรรมทั้งหลายหมดไปแล้ว คนรุ่นใหม่ๆ ในยุคนี้ จะมีเหลืออยู่อีกสักเท่าไรกัน เท่าที่เห็น ณ.เวลานี้แทบไม่เหลือ

แต่ ผมคงจะมองที่ผิดไปอย่างมาก ที่เราไม่เห็นมันเพราะเหตุการณ์ยังไม่เกิดจึงดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ที่ไหนได้ จำนวนพลังเงียบทั้งหลายแหล่กำลังผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกมาไล่ทรราชกัน ถ้วนหน้า การตรวจสอบทางสื่อหนังสือพิมพ์ก็ยังเข้มข้น

เป็นภาพที่น่าย ินดีและคงจะทำให้คนเก่าๆ ในยุคก่อนนี้ที่กำลังจะโรยราได้กลับมามีชีวิตชีวาและมีความหวังขึ้นมาอีก ครั้งหนึ่ง อย่างน้อยก็จากไปอย่างสบายใจ ถึงผมจะยังไม่ถึงวัยนั้นแต่ก็รู้สึกโล่งอกโล่งใจเป็นอย่างยิ่ง ที่อย่างน้อยประเทศนี้ยังไม่สิ้นการตรวจสอบ ถึงแม้ว่าการตรวจสอบตามกติกาจะอ่อนแรงลงก็ตาม ทายาทของบุคคลเหล่านั้นก็จะยังต้องสืบต่อไปอีก ตราบนานเท่านาน

แม่ผมบอกว่า "เธอไม่ต้องไปยุ่งกับมันหรอก มันยังมีคนทำอีกเยอะหล่ะ เชื่อเหอะ"

ภาพข่าวจาก
www.matichon.co.th

20 มี.ค. 2549
MrsJan

19 มีนาคม 2549

ย้อนรอยคำพูดตอนขายชินฯ (Tracking)

นึกย้อนมาได้ก็เขียนซะหน่อย เป็นโจ๊กจากเรื่องจริง

ตอนก่อนขายชินคอร์ป นักข่าวพยายามสัมภาษณ์เกี่ยวกับการขายหุ้นชิน ท่านว่า "ไม่รู้ ผมไม่ทราบ เป็นเรื่องของลูกๆ ไม่รู้ ไม่เห็น"

แต่หลังการขาย "ไม่มีอะไรเสียหาย เป็นเรื่องของการทำธุรกิจ การขายถูกต้องตามกฏหมายทุกประการ มันเป็น capital gain tax ใครๆ เค้าก็ทำกัน ไม่ต้องเสียภาษี ผมเล่นตามกติกา blah blah blah" (ทียังงี้แล้วรู้เชียว)

มีวันนึงท่านบอก "ลูกๆ เค้าคิดกันมานานแล้ว อยากให้ผมออกจากผลประโยชน์ทับซ้อน ทำงานการเมืองอย่างเดียว" (ฟังแล้วน้ำตาแทบร่วง) ในขณะที่ไปถามลูกโอ๊ค ลูกแสนกตัญญูของท่านตอบว่า "ผมไม่ทราบเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่บอกขายผมก็ขาย"

น่ารักนะครับครอบครัวนี้

ค้นหารูปภาพจาก
google.com

19 มี.ค. 2549
MrsJan

"สอนให้ชั่วกันทั้งโคตร"


อันที่จริงวันนี้จะเขียนถึงหนังสือ สอน...ให้รวย แต่พอดีเขียนถึงเรื่องประกันสังคมแล้วนึกขึ้นได้เลยนอกเรื่องไป

วันนี้ไปร้านหนังสือไปสะดุดเจอรูปคนแก่หัวหงอก หน้าตา ชื่อชั้นคุ้นๆ เพราะแกดันไปพัวพันกับตระกูลชินวัตร ทำให้ต้องหยุดดู นายคนนี้ชื่อ "สุวรรณ วลัยเสถียร" คุ้นๆ มั้ย ก็เจ้าโฆษกตระกูลชินวัตร ที่เค้าบอกว่า "วันนี้ผมไม่ได้รับอนุญาตให้พูดเรื่องจริยธรรม" คำๆ นี้มันเจ็บแสบนัก เป็นการยอมรับกลายๆ ว่า "อันตัวกรูนี้นั้นไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้านายให้พูดเรื่องจริยธรรมเพราะตัวเจ ้านายกรูมันไม่มี ตัวกรูเองก็พูดไม่ได้เพราะไม่มีเช่นเดียวกัน"

ในตัวหนังสือเองมีเนื้อหาบางตอนแสดงวิธีการฉ้อฉลอย่างถูกต้องตามกฏหมายทุกประการ (เอ๊ะ คำนี้คุ้นๆ อีกแล้ว) วันนี้ก็พอเหมาะพอดีไปอ่านเจอเรื่องเกี่ยวกับ ข้อสอบ ภาคเรียนที่ 2 ปี 2548 คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ พอดี มีข้อนึงเค้าว่า

ดร. สุวรรณ วลัยเสถียร โฆษกและที่ปรึกษาภาษีตะกูลชินวัตร ผู้เขียนหนังสือ "พ่อสอนให้ลูกรวย" "สอนภรรยาให้รวย" "สอนเพื่อนให้รวย" ซึ่งมีเนื้อหาส่วนหนึ่งเป็นเรื่องการสอนวิธีหลีกเลี่ยงภาษี เช่น ถ้าคุณย้ายรายได้ส่วนหนึ่งไปให้กับตัวเด็ก คุณก็จะประหยัดภาษีเงินได้ เช่น

"... ในกรณีที่ลูกของคุณโตพอ ราวอายุสัก 18 ปี คุณก็ให้ลูกเข้าเป็นหุ้นส่วนในห้างในรูปคณะบุคคล เงินรายได้ของห้างนี้ก็จะไม่เข้ามารวมเป็นรายได้ของคุณและช่วยให้คุณไม่ต้อง เสียภาษี..." (พ่อสอนลูกให้รวย, หน้า 88)

"คุณเป็นคนที่รายได้ปีละ 10 ล้านบาท หากปล่อยให้เงินได้ทั้งหมดเป็นรายได้ ของตัวคุณ คุณต้องเสียภาษี 37% อย่างแน่นอน แต่ถ้าคุณแยกกระจายรายได้เป็น 2 คณะบุคคล เพื่อว่าตัวคุณมีรายได้ 4 ล้านบาท คณะบุคคลที่ 1 ได้ 3 ล้านบาท และคณะบุคคลที่ 2 ได้อีก 3 ล้านบาท ก็จะทำให้คุณเสียภาษีลดลงได้เกือบครึ่งหนึ่ง เป็นต้น" (สอนเพื่อนให้รวย, หน้า 127)

โดยที่รธน. มาตรา 69 บัญญัติว่า "บุคคลมีหน้าที่ป้องกันประเทศ รับราชการทหาร เสียภาษีอากร..." !!
โ ดยที่ประมวลรัษฎากร มาตรา 37 บัญญัติว่า "ผู้ใด ... (2) โดยความเท็จ โดยฉ้อโกงหรืออุบาย หรือโดยวิธีการอื่นใด ทำนองเดียวกัน หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยง การเสียภาษีอากรตามลักษณะนี้ ต้องระวางโทษจำคุก... ปรับ ..."

สมมติว่า ดร. สุวรรณโดนฟ้องข้อหา "โฆษณาหรือประกาศแก่บุคคลทั่วไปให้กระทำความผิด" ตามประมวลกฏหมายอาญา 85 ดร. สุวรรณจะสามารถอ้างเสรีภาพในทางวิชาการ ตามมาตรา 42 คุ้มครองตนเองได้หรือไม่ เพราะเหตุใด


ผ มจะลองย่อยคำตอบดูว่า "บุคคลย่อมใช้สิทธิและเสรีภาพของตนได้เท่าที่ไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู ้อื่น ไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อรธน. หรือไม่ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน ทั้งที่ไม่ขัดต่อหน้าที่ของพลเมืองหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน" แต่ลองมาดูจากหน้าที่ของพลเมืองจะเห็นว่า "บุคคลมีหน้าที่เสียภาษีอากร" และ จากมาตรา 37 ผู้ใดประกาศให้แก่บุคคลทั่วไปให้หลีกเลี่ยงภาษี ก็ไปตรงกับมาตรา 85 ดังโจทย์ว่า ดังนั้นถ้าถูกฟ้องก็ไม่สามารถยกมาตรา 42 มาคุ้มครองตัวเองได้ คือ ใครจะฟ้องนายคนนี้ก็ได้ถ้าตามข้อกฏหมายติดคุกชัวร์ จะได้ไปเขียนหนังสือ "สอนนักโทษให้รวย" ต่อในคุก

จะเห็นว่าตั้งแต่หน ังสือ Rich Dad Poor Dad (พ่อรวยสอนลูก) ที่โด่งดังมาจากต่างประเทศเข้ามา แนวคิดนี้กำลังแพร่หลายในหมู่นักธุรกิจไทยและได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง จนแม้แต่ตัวผู้นำเองก็ไม่รู้ตัวแล้วสับสนว่าตัวเองมีหน้าที่ที่จะต้องทำอะไร กันแน่ จะปฏิเสธว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับตัวแล้วได้อย่างไร (อ่านย้อนรอยคำพูดฯ) แทนที่ตัวเองรู้ว่ากฏหมายมีช่องโหว่แล้วจะหาทางแก้ไขเพื่อปกป้องผลประโยชน์ ของชาติ แต่ตัวเองกลับจ้างที่ปรึกษาด้าน (การเลี่ยง) ภาษี มาทำซะเอง แล้วจะให้ "เชื่อผม พ่อแม่พี่น้อง ผมไม่ทำอะไรที่เสื่อมเสียอย่างแน่นอน" ได้อย่างไร

ข้อมูลข้อสอบจาก
- สถานีคิดเลขที่ 12 มติชน วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม 2549
- สำนักพิมพ์เนชั่น

19 มี.ค. 2549
MrsJan