
ทีนี้ประเด็น คือ เรื่องของการเสพละครไทยของชาวไตนั้นได้มีผลต่อความคิดและอุดมคติของชาวไตเป็นอย่างมาก เราคงมองเห็นกันว่า ละครไทย ลักษณะก็อย่างที่พวกดูละครนั่งดูไปก็บ่นไปว่า "นี่ วันๆ มันไม่ทำมาหากินอะไรกันบ้างหรืออย่างไร" หรือ ภาพที่บ่งบอกถึงความหรูหราทันสมัย บริโภคความเดิร์นของยุคสมัยกันสุดเหวี่ยง ฉากบ้าน สวย งดงาม จนทำให้เกิด มโนภาพ จินตนาการ ออกไปว่า เมืองไทยนี่มันช่างศิวิไลศ์เพียงนี้ ถ้าได้ไปอยู่คงจะสุขสบายกว่าที่เป็นอยู่
ในปัจจุบันมีชาวไตอพยพมาอยู่ในเมืองไทยกันเป็นจำนวนมากจากปัญหาการว่างงานแล ะอื่นๆ ซึ่งจากทางผู้ทำวิจัยเองเชื่อว่า ส่วนหนึ่งของการตัดสินใจ แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด คือ การเสพละครไทยกันในลักษณะนี้นั่นเอง โดยที่เมื่อได้มาจริงๆ แล้ว พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะเจอความจริงที่สภาพต้องทำงานหนักตลอดเวลา สภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่เลวร้าย พักอยู่ในห้องแคบๆ ซึ่งมันก็ไอ้สภาพอย่างที่เราๆ เห็นกันอยู่ ในกรุงเทพฯ อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั่นแหละ (หรือว่าไม่เห็น)
คงไม่ปฏิเสธเหมือนกันว่าเวลาเราดูหนังละครของชาติอื่นก็อาจจะจินตนาการเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหนได้เหมือนกัน เหมือนกับกระแสการคลั่งไคล้หนุ่มเกาหลีของผู้หญิงญี่ปุ่นที่เสพผ่าน Winter Love Song แต่อย่างไรก็ตามผมมองว่าการเกิดกระแสการคลั่งไคล้เพราะต้องการตามหาอุดมคติแบบที่เห็นในหนังนั้น อีกด้านก็เป็นเพราะความที่ของที่มันมีอยู่และที่ตัวเองเป็นอยู่มันไม่น่าพึงพอใจสักเท่าไรด้วยนั่นหล่ะ
อีกเรื่องเคยอ่านเจอมานานแล้ว เกี่ยวกับความฝันของหญิงสาวชาวญี่ปุ่น ผู้เสพสัญลักษณ์ของฝรั่งเศส ผ่าน Louis Vuitton และความเป็นเมืองแฟชั่น โดยใฝ่ฝันว่าถ้าได้ไปอยู่คงจะได้เห็นของจริงเหมือนที่ได้จินตนาการเอาไว้ แต่ถึงเวลาเมื่อได้ไปอยู่จริง ไปเจอกับสภาพที่เป็นจริงทำให้รู้สึกผิดหวัง พวกแหล่งเสื่อมโทรมที่เธอเคยเห็นเป็นอย่างไรก็อย่างนั้น มันไม่ได้เลิศเลออะไรอย่างที่เธอเคยคิดเลย
ที่ว่ากันว่าทุกวันนี้โดน สื่อจากต่างชาติเข้ามาครอบงำเรานั้น มันก็มีลำดับความปัญญาอ่อนที่ครอบงำต่อๆ กันไปตามระดับการพัฒนาวัตถุของแต่ละประเทศนั่นแล
ข้อมูลบทความจาก
ThaiNGO.org
รูปภาพจาก
Ch7
MrsJan
28 เม.ย. 49