28 เมษายน 2549

สื่อบันเทิงจากต่างชาติ ครอบงำเรา!?

ด้ไปอ่านเนื้อหาน่าสนใจประกอบกับที่เคยอ่านเดิมเกี่ยวกับ กรณีศึกษา "ละครไทยเปลี่ยนเสียงไต" ไตที่ว่านี่คือชาวไตหรือไทยใหญ่ครับ คงรู้กันอยู่แล้วว่าแถบประเทศเพื่อนบ้านเราเนี่ย มักจะนิยมละครไทยเรามากอยู่พอสมควร ทีนี้พอเค้าเอาไปพากษ์เป็นภาษาไต พวกชื่อตัวละครอะไรก็เปลี่ยนเป็น ภาษาไต หมด เช่น กบ สุวนันท์ ชื่อไทยใหญ่ เป็น "เขียวยุ้ม", คัทลียา เป็น "คำหลาว", วิลลี่ เป็น "ขุนฟ้าโหลง" และแน่นอนข่าวคราวความเคลื่อนไหวของดาราไทยก็ได้รับความสนใจและติดตามจากชาว ไทยใหญ่ด้วยเช่นกัน อย่างเค้าว่า ข่าวท้องก่อนแต่งของ "คำหลาว" ได้สร้างความผิดหวังให้กับชาวไตเป็นอันมาก

ทีนี้ประเด็น คือ เรื่องของการเสพละครไทยของชาวไตนั้นได้มีผลต่อความคิดและอุดมคติของชาวไตเป็นอย่างมาก เราคงมองเห็นกันว่า ละครไทย ลักษณะก็อย่างที่พวกดูละครนั่งดูไปก็บ่นไปว่า "นี่ วันๆ มันไม่ทำมาหากินอะไรกันบ้างหรืออย่างไร" หรือ ภาพที่บ่งบอกถึงความหรูหราทันสมัย บริโภคความเดิร์นของยุคสมัยกันสุดเหวี่ยง ฉากบ้าน สวย งดงาม จนทำให้เกิด มโนภาพ จินตนาการ ออกไปว่า เมืองไทยนี่มันช่างศิวิไลศ์เพียงนี้ ถ้าได้ไปอยู่คงจะสุขสบายกว่าที่เป็นอยู่

ในปัจจุบันมีชาวไตอพยพมาอยู่ในเมืองไทยกันเป็นจำนวนมากจากปัญหาการว่างงานแล ะอื่นๆ ซึ่งจากทางผู้ทำวิจัยเองเชื่อว่า ส่วนหนึ่งของการตัดสินใจ แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด คือ การเสพละครไทยกันในลักษณะนี้นั่นเอง โดยที่เมื่อได้มาจริงๆ แล้ว พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าจะเจอความจริงที่สภาพต้องทำงานหนักตลอดเวลา สภาพแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่เลวร้าย พักอยู่ในห้องแคบๆ ซึ่งมันก็ไอ้สภาพอย่างที่เราๆ เห็นกันอยู่ ในกรุงเทพฯ อยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนั่นแหละ (หรือว่าไม่เห็น)

คงไม่ปฏิเสธเหมือนกันว่าเวลาเราดูหนังละครของชาติอื่นก็อาจจะจินตนาการเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหนได้เหมือนกัน เหมือนกับกระแสการคลั่งไคล้หนุ่มเกาหลีของผู้หญิงญี่ปุ่นที่เสพผ่าน Winter Love Song แต่อย่างไรก็ตามผมมองว่าการเกิดกระแสการคลั่งไคล้เพราะต้องการตามหาอุดมคติแบบที่เห็นในหนังนั้น อีกด้านก็เป็นเพราะความที่ของที่มันมีอยู่และที่ตัวเองเป็นอยู่มันไม่น่าพึงพอใจสักเท่าไรด้วยนั่นหล่ะ

อีกเรื่องเคยอ่านเจอมานานแล้ว เกี่ยวกับความฝันของหญิงสาวชาวญี่ปุ่น ผู้เสพสัญลักษณ์ของฝรั่งเศส ผ่าน Louis Vuitton และความเป็นเมืองแฟชั่น โดยใฝ่ฝันว่าถ้าได้ไปอยู่คงจะได้เห็นของจริงเหมือนที่ได้จินตนาการเอาไว้ แต่ถึงเวลาเมื่อได้ไปอยู่จริง ไปเจอกับสภาพที่เป็นจริงทำให้รู้สึกผิดหวัง พวกแหล่งเสื่อมโทรมที่เธอเคยเห็นเป็นอย่างไรก็อย่างนั้น มันไม่ได้เลิศเลออะไรอย่างที่เธอเคยคิดเลย

ที่ว่ากันว่าทุกวันนี้โดน สื่อจากต่างชาติเข้ามาครอบงำเรานั้น มันก็มีลำดับความปัญญาอ่อนที่ครอบงำต่อๆ กันไปตามระดับการพัฒนาวัตถุของแต่ละประเทศนั่นแล

ข้อมูลบทความจาก
ThaiNGO.org
รูปภาพจาก
Ch7

MrsJan
28 เม.ย. 49

25 เมษายน 2549

ออกจากโรงพยาบาล

นอนไม่ค่อยหลับเลยทั้งคืน ดูเหมือนว่าพยาบาลจะเข้ามาตรวจทุกๆ 2 ชม. ก็มันไม่ใช่โรงแรมนี่หว่า (ถึงจะคล้ายก็เถอะ) หลังจากผ่านการปรนนิบัติอย่างดี มา 1 วัน 1 คืน ก็ได้เวลาเช็คบิลกันแล้ว ผมลองใช้ประกันสุขภาพของเมืองไทยประกันชีวิต ตามคาดคือ เบิกไม่ได้ (55 กูว่าแล้ว) เพราะเป็น Case เดียวกับการคลอดบุตรไม่สามารถเบิกได้ ประกันสังคมก็ทำไปได้แค่เดือนเดียว สรุปงานนี้ คือต้องควักเอง นั่งร่ายบิลค่ารักษาพยาบาล ถึงได้เห็นว่า มันคิดทุกก้าว ตั้งแต่ก้าวแรกที่ออกจากบ้านแล้ว

ที่หงุดหงิดนิดหน่อย คือ ค่ารถพยาบาลระยะทาง 1 กม. 500 บาท, ค่าใบยื่นใบประกัน (แล้วเบิกไม่ได้) 110 บาท ค่าหมอเดินมาดูถามไถ่นิดๆ หน่อยๆ คราวละ 200-300-400-500 บาท รวมอื่นๆ อีกนิดๆ หน่อยๆ ไม่มาก ไม่มาย รวมหมดแล้ว แค่ 5,421 บาท (ถ้าไปกรุงเทพคงเหยียบหมื่นไปแล้วมั้ง เอิ๊ก)

ขอยืมคำพวก Marxist อีกสักครั้งว่า "นี่มันขูดรีดกันอีกแล้ว"

บทเรียนครั้งนี้ผมได้ข้อสรุปว่า ประกันสุขภาพของเอกชนจะมีข้อจำกัดในส่วนที่เราต้องการจะใช้เสมอ ไอ้ส่วนที่เราไม่ค่อยจะเกิดบ่อยๆ นั่นหละมันถึงจะจ่าย จริงๆ ผมก็ได้ยกเลิกประกันสุขภาพของตัวเองไปก่อนหน้านี้เรียบร้อยแล้ว เพราะ จะเอามาจ่ายประกันสังคมอย่างเดียว แต่ในส่วนที่เคยจ่ายของเอกชน ต่อไปผมจะเก็บเข้าบัญชีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับสุขภาพของตัวเอง เก็บเองจ่ายเองดูจะคุ้มค่ากว่า แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือ ผมจะไม่ยอมป่วยอย่างเด็ดขาด เพราะนั่นคือการประกันสุขภาพที่ดีและยั่งยืนที่สุด เป็นหนึ่งใน Project ที่ผมจะทำมันให้ได้

ณ. เวลานี้ผมอยากได้ หมอ กับ ทนายความมาร่วมขบวนการด้วยเหลือเกิน เพราะ 2 สิ่งนี้เป็นอาชีพที่มีความจำเป็นต่อปัญหาความยากจนและการถูกเอารัดเอาเปรียบ มากที่สุด และอีกหนึ่งอย่างที่ผมต้องการมาเป็นพวกด้วยคือ ตำรวจ แต่ที่โชคร้ายตอนนี้คือ ยังนึกไม่ออกเลยสักคน

MrsJan
25 เม.ย. 49

24 เมษายน 2549

กลบทุกข์ด้วยสื่อบันเทิง

วันนี้เราได้ดูโทรทัศน์ในรอบกี่เดือนก็ไม่รู้ แต่ทุกอย่างดูเหมือนไม่ได้ดูมานานมากแล้ว เห็นรายการคุยคุ้ยข่าวแล้วตกใจ เฮ้ยคุ้นๆ อ๋อใช่เลย ไม่ได้ดูโทรทัศน์มานานมากแล้วนี่เรา เรากลบความทุกข์ไปชั่วคราวด้วยโทรทัศน์ที่น่าตื่นตา ไม่ได้ดูมานานก็จริงแต่ข่าวบนจอก็ยังคงวุ่นวายอยู่เป็นปกติ ด้วยข่าวการเมือง แต่วันนี้ผมกลับให้ความสนใจกับรายการ VIP ที่เชิญเศรษฐีใหม่มาร่วมรายการ เค้าว่าเป็นเจ้าแม่รถทัวร์ ผู้พก How to แห่งความสำเร็จแบบเชยๆ อย่างว่า ตื่นก่อนตะวัน นอนหลังตะวัน เรื่องสำคัญคือขยัน อยากจะประสบความสำเร็จอย่างดิฉันต้องขยันค่ะ แต่เจ๊แกลืมบอกไปอย่างครับว่า ต้องกินแรงงานส่วนเกิน (ยืมคำพูดพวก Marxist) ให้มากๆ ด้วย ไม่งั้นจะรวยไม่ได้เด็ดขาด เหอ เหอ (อันนี้ยืม blog เพื่อนบ้านมา)

คนเค้าเรียกเธอคนนี้ว่า "เจ๊เกียว เชิดชัย" เจ๊เกียวคนเดียวกันที่บอกว่าจะหยุดเดินรถถ้าไม่ให้ขึ้นราคาค่าโดยสารนั่นหละ ครับ เจ๊แกบอกว่าธุรกิจของเค้านั้นหลักพันล้าน เป็นคำถามที่พิธีกรคะยั้นคะยอเอาจนได้ เพราะเจ๊แกขอไม่ตอบ ตอนนี้ค่าน้ำมันที่ขึ้นไม่หยุด ทำให้ธุรกิจพันล้านของเจ๊เกียวจะอยู่ไม่ได้เพราะกำไรมันลดลง ผมออกจะเห็นใจพวกคนเหล่านี้ที่ปากชอบบอกว่าไม่ยึดติด แต่การกระทำมันไม่ออกมาอย่างนั้น

จากภาพในทีวี ทั้งพิธีกร ทั้งแขกรับเชิญ รับลูกยอ ลูกสรรเสริญกันไม่หวาดไม่ไหว เจ๊เกียวผู้สมถะ ใจบุญ เก่งกาจ อาจสามารถ แล้ว Step ต่อไปของพวกนี้คือ เจียดเงิน ทำมูลนิธิ อันที่จริงคุ้นๆ ว่า นี่มักจะเป็น Step ของความเข้าใจของคนรอบข้างจริงๆ หนอ มีเพื่อน มีแม่ มีญาติ แนะนำและเข้าใจได้เป็นเสียงเดียวกันว่า ขุนตัวเองให้รวยก่อนแล้วค่อยเอาเงินไปทำมูลนิธิ ผมคิดในใจว่า "ถ้าขืนกูมารอให้รวยก่อนก็ไม่ต้องทำอะไรแล้ว เพราะกูมันขี้เกียจหาเงิน !!" เดี๋ยวจะไม่เข้า Concept ใช้เงินให้น้อยแต่เพิ่มประสิทธิภาพให้มาก กันพอดี

MrsJan
24 เม.ย. 49

ฉุกเฉิน

หลังจากวันนั้นได้รับโทรศัพท์จากทางบ้านตลอดทั้งวัน และคำแนะนำจากญาติ ทางฝ่ายของผมเห็นควรให้ขูดมดลูกโดยเร็วที่สุด ไม่อยากให้ออกมาเองตามธรรมชาติ เพราะทั้งแม่และน้าเคยประสบมาแล้วว่า ถ้าอ่อนแอจะอาการหนักน่าเป็นห่วง ส่วนอีกฝ่ายแนะนำว่าถ้าออกมาเองได้จะดีกว่า เพราะการขูดมดลูกอาจจะทำให้ระคายเคืองต่อมดลูกได้

ทางบ้านเป็นห่วงมากอยากให้กลับไปได้รับการดูแลที่บ้านเสนอกันไปเสนอกันมา สรุปได้ว่าไปรักษาตัวที่กรุงเทพ ทางญาติๆ จะได้มาดูแลได้ จึงได้ตัดสินใจจองเครื่องบินไปกรุงเทพในคืนวันจันทร์

วันนี้ภรรยามีอาการปวดท้องถี่ขึ้นๆ ขณะกลับมาเก็บของ อาการเริ่มแย่ลง ปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องเรียกรถพยาบาลมารับตัวเนื่องจากว่า ไม่สามารถเดินทางไปเองได้แล้ว พอไปถึงทางหมอบอกให้รีบขูดมดลูกฉุกเฉินเพราะถ้าให้ออกมาเอง อาจจะทนไม่ไหว แน่นอนผมต้องตกลงตามนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในการตัดสินใจของหมอแล้ว

หลังจากรักษาแล้วอาจต้องพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล 1 คืน เราต้องยกเลิกเที่ยวบินนี้ ด้วยเหตุสุดวิสัย ทางสายการบินให้ผมส่งใบรับรองแพทย์ไปโดยเร็วที่สุด เค้าบอกจะทำการยกเลิกเที่ยวบินและ Refund ให้ครบจำนวน ภายใน 14 วันซึ่งผมจะต้องติดตามต่อไป นับได้ว่าเป็นบริการที่ประทับใจมาก สายการบินที่ว่าคือ สายการบิน Air Asia

MrsJan
24 เม.ย. 49