กลับมาบ้านก็ต้องมาวุ่นวายกันอีกแล้วน้อ เรื่องเดิมๆ ที่ว่าจะไปทำอะไรต่อ มางวดนี้ไม่คิดจะให้มาขายของแล้ว และเห็นดีเห็นงามกับสิ่งที่จะทำด้วย แต่จุดประสงค์เดิมก็ยังอยู่คือยังไงก็อยากให้อยู่แถวๆ นี้ พยายามทุกวิถีทาง เสนอนู่นเสนอนี่ให้ อยู่นี่มีทุนให้ มีที่ให้ มีให้ทุกอย่าง พูดอ้อมไปอ้อมมา ก็คือสรุปถ้าไปอยู่ที่แปดริ้วไม่มีทุนให้ เหอะ เหอะ จะให้แต่ต้องมีข้อแม้กันสักหน่อย
ที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี ้คือผมไปบอกว่าขายบ้านที่ตรังได้แล้วขอส่วนนึงมาเป็ นทุนทำสวนที่แปดริ้ว แต่พอได้ทีก็ต่อรองมีข้อแม้ ฉะนั้นคำตอบที่ผมให้ไปก็คือ ไม่ให้ก็ไม่เอาก็ได้วะ เงินที่สะสมได้จากที่ทำงานเก่า 2 แสนกว่าบาทน่าจะพอทำอะไรได้บ้างอยู่ ไม่น่ามีปัญหา
ช่วงนี้ก็ทำงานนอ กไปเรื่อยๆ เป็นงานที่ติดพันมาตั้งแต่ปีก่อนแล้วยังไม่เสร็จสักที เพราะเพิ่งจะมาปัดฝุ่นกันอีกรอบ แถมงาน flash ก็ยังค้างอยู่กะว่าจะให้เด็กแถวๆ นี้ใส่ effect หน้าแรกให้สักหน่อย จะได้เสร็จไวๆ
ว่าแล้วก็ไปนั่งทำงานนอกแสนน่าเบื่อต่อ ไม่ได้ทำงานของตัวเองสักกะที ทั้งที่โครงการผุดขึ้นมาในสมองเพียบ เซ้งเว้ยยย
MrsJan
20 พ.ค. 49
20 พฤษภาคม 2549
18 พฤษภาคม 2549
วันสุดท้ายที่เชียงราย

ในที่สุดก็ ต้องออกมา พอคิดว่าไม่ต้องตื่นไปทำงานแล้วในวันรุ่งขึ้น มันก็รู้สึกดีใจอีกครั้ง เหมือนครั้งที่ออกจากงานคราวแรก แต่การออกมาคราวนี้งานก็ยังติดตัวออกมาอยู่บางส่วนที่ต้องทำให้เสร็จ แต่ไม่เป็นไรถือว่าเราบอกก่อนออกน้อยไปหน่อย (5 วัน) จริงๆ ไม่คิดว่าจะทำแบบนี้ แต่ด้วยเหตุจำเป็น ก็ต้องทำงานไถ่โทษกันไป
ผ่าน งานเลี้ยงที่เป็นวัฒนธรรมของกระจกเงาไปแล้ว ว่าอย่างไรเสียก็ต้องเลี้ยง(หมูกระทะ)ส่ง ให้กับผู้ที่เคยร่วมงานกัน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดี ทำกันสม่ำเสมอ ไม่เหมือนที่ทำงานที่เก่า นึกมีอารมณ์จะจัดก็จัดหรือ สบโอกาสก็จัด ไม่มีมาตรฐาน บางครั้งก็จัดตามลำดับความสำคัญ ถ้าอย่างนั้นก็อย่าไปจัดมันซะให้หมดเลยจะดีกว่า แต่ความเป็นไปได้มันก็คงจะต่างกันแน่นอนอยู่แล้วสำหรับ 2 องค์กรที่วัฒนธรรมต่างกัน ด้านหนึ่งเป็นองค์กรแสวงหาผลกำไร อีกด้านก็เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ก็ลองวิเคราะห์กันดูว่ามันเป็นเพราะอะไร
ผ่านการทำงานในคราวนี้ ได้เห็นอะไรหลายๆ อย่าง หลายอย่างก็ไม่เป็นระบบเอาซะเลย แต่ในความไร้ระบบก็มีหลายสิ่งที่อยากนำมันมาใช้งานด้วยเหมือนกัน เอาไว้จะเขียนต่อในอันดับต่อๆ ไปถ้านึกออก หรือผ่านพบมันอีกครั้ง
กล ับมาวันแรกก็เก็บของๆๆ ตอนซื้อของก็ไม่ได้คิดสักเท่าไรว่าจะขนกลับไปได้หรือไม่เพราะคิดว่าจะเอารถก ระบะตอนครึ่งมารับ ที่ไหนได้เอากระบะสองตอนมาเลยต้องลุ้นกันหน่อย ถ้าใครได้มาเห็นรับรองได้ว่าไม่พอแน่นอน ลำพังแค่ตู้เย็นกับมอไซต์ก็ไม่รู้จะไปยัดไว้ตรงไหนแล้ว ต้องเปิดท้ายผูกเชือกไนล่อนเป็นร้อยเมตร กองๆ ยัดๆ เข้าไปให้ได้มากที่สุด ได้สภาพอย่างที่เห็น งานนี้ถ้าไม่ได้มืออาชีพทางการย้ายบ้านจริงๆ ทำไม่ได้แน่นอน เพราะมันลำบากก็ไอ้ตรงที่จะมัดอย่างไรให้มันแน่นหนานี่หละ แล้วยังต้องขับทางไกลอีก 800 ร้อยกว่ากม. -_-'
แต่สุดท้ายก็ถึงบ้านได้โดยสวัสดิภาพ สวัสดีกรุงเทพฯ
* รูปภาพประกอบยังเดินทางมาไม่ถึงกระบี่
MrsJan
18 พ.ค. 49
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)