10 มิถุนายน 2549

คุนิมิตซึ คนจริงจอมกะล่อน : Kunimitsu No Matsuri

หลังจากนี้คงได้มาเขียน Blog น้อยลงหน่อยเนื่องจากกำลังริเริ่มโครงการใหม่ๆ แล้วภารกิจหลักตอนนี้คืออ่านการ์ตูนที่ค้างเติ่งไม่ได้อ่านมาหลายเดือน มีเล่มใหม่ๆ เข้ามาเพียบ ในบรรดาการ์ตูนที่อ่านช่วงนี้ก็มี คุนิมิตซึ, 20th Century Boy, โรงเรียนนักสืบ Q แล้วก็ คุโรมาตี้

เรื่องที่อวสา นไปแล้ว และเป็นเรื่องที่กำลังจะพูดถึงตอนนี้ คือเรื่อง คุนิมิตซึ ไม่ได้อ่านการ์ตูนมานานเกือบปี มาเจออีกทีอวสานไปแล้วเลยซื้อย้อนหลังมาทั้งหมดแถมซื้อซ้ำฉบับที่ 15 ด้วย เปลี่ยนก็ไม่ได้แล้ว เพราะ สินค้าจะเปลี่ยนได้ในเล่มเดียวกันเท่านั้น

ส ำหรับการ์ตูนเรื่องนี้ จะมีความฮาและลีลาแบบ GTO บวกกับเนื้อหาสาระแบบการเมืองที่มีการชิงไหวชิงพริบทางการเมือง แบบที่บ้านเราเค้าเรียกว่าเล่นการเมือง หรือการเมืองแบบไม่สร้างสรรค์ และการเมืองที่เป็นแก่นแท้ของการเมือง ในเนื้อหาสาระที่เป็นปัญหาสำหรับภายในญี่ปุ่นเอง อันนี้เป็นแบบที่ผมจะเรียกว่า การเมืองเพื่อชีวิต การเมืองเพื่อประชาชน หรือ การเมืองแบบสร้างสรรค์ ก็แล้วกัน

เรื่องราวของการ์ตูนเรื่องนี้ จะเน้นไปที่การต่อสู้กันระหว่างนักการเมือง 2 คน ของการเลือกตั้งในจังหวัดเล็กๆ ของญี่ปุ่น ระหว่างนั้นตัวเอกซึ่งลีลาเป็นแบบโอนิสึกะเปี๊ยบ ชอบใช้แต่กำลัง ไม่ค่อยใช้สมอง เป็นคนที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงประเทศญี่ปุ่น รู้สึกว่าแรงบันดาลใจที่คิดอย่างนี้จะได้มาจากรุ่นพี่คนหนึ่งสมัยเป็นพวก แก๊งซิ่งที่ต้องการจะเข้าสู่วงการการเมือง ทั้งสองก็จะมาเจอกันตอนกลางเรื่อง โดยอยู่ขั้วตรงกันข้ามกันทางการเมือง ทั้งสองต่างเป็นเลขาให้กับนักการเมืองสองคนที่กำลังจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯ ของเมืองชินชิบะกะซากิ การแข่งขันเป็นไปด้วยความดุเดือด ทั้งวิชามาร วิชาศรีธนญชัย ถูกงัดออกมาใช้เพียบ ในตอนจบยังคงแอบลุ้นผลการนับคะแนนเหมือนกับการเลือกตั้งในโลกจริง ถึงแม้ว่าจะรู้ๆ อยู่ก็ตาม

อ่านการ์ตูนเรื่องนี้แล้วต้องยอมรับว่า สนุกมาก แต่เรื่องความฮานั้นยังสู้ GTO ไม่ได้ อย่างตอนที่มีการคบค้ากัน ระหว่าง นักการเมือง ข้าราชการ และผู้รับเหมา เป็นขบวนการคอรัปชั่นในท้องถิ่น ต่อมาก็โยงต่อไปถึงนักการเมืองระดับประเทศ การคอรัปชั่นแบบดั้งเดิมอย่างการกินหัวคิว รับสินบนต่อกันเป็นทอดๆ เนื้อหาการคอรัปชั่นยังไปไม่ถึงระดับบ้านเราที่พัฒนากันไปมากแล้ว เนื้อหาที่เป็นวิชาการเลยจะเห็นอยู่ 2 เรื่อง คือ การตั้งคำถามเช่นว่าทำไมเกษตรกรจึงต้องทำการเกษตรแบบใช้ยาฆ่าแมลง การเปิดโปงขบวนการสาธารณสุข ในส่วนนี้ผู้เขียนได้สัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง ถึงขั้นโทรไปสอบถามกระทรวงสาธารณสุขเลยทีเดียว

สำหรับเรื่องขบวนการเ กี่ยวกับสาธารณสุขนั้นพอดีว่าเพิ่งได้อ่าน หนังสือเรื่อง "สุขภาพดี ไม่ต้องแพง" ของนายแพทย์ ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ แล้วช่างสอดคล้องกันเป็นโลกาภิวิฒน์อีกแล้ว อย่างเนื้อหาที่ว่า ยารักษาโรคในปัจจุบันนั้น มีการจ่ายยามากเกินความจำเป็น โรคหลายโรคเลยไม่ต้องการยาใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งยาหลายชนิดยังไปทำร้ายร่างกายไม่ให้กลไกการทำงานตามปกติได้ทำงานอีกด้วย และการรับยามากเกินความจำเป็นนั้น ทำให้ก่อเกิดเชื้อโรคดื้อยาและต้องการยาที่ฤทธิ์แรงมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด โรคใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ส่วนหนึ่งหรือส่วนใหญ่ก็ไม่ทราบ เกิดจากยาแผนปัจจุบันเหล่านี้นั่นแหละ ถึงแม้ว่าเราจะไม่เคยรับประทานยามาก่อนเลย แต่ก็อย่าเพิ่งวางใจ เพราะแม้แต่เนื้อสัตว์ที่เรารับประทานเข้าไปก็ผ่านการเลี้ยงดูมาแบบว่า อาบยาปฏิชีวนะมาตั้งแต่เกิด แล้วก็เข้าไปสะสมในร่างกาย จนเกิดเชื้อดื้อยาทำให้มีโรคใหม่ๆ แปลกๆ เกิดขึ้นอยู่ทุกวัน และเราก็หาทางไล่ล่าฆ่ามันและเกิดใหม่ๆ วนไปเรื่อยๆ เป็นวงจรอุบาทว์ โดยหารู้ไม่ว่าเพราะการสาธารณสุขอย่างทุกวันนี้ที่เป็นต้นเหตุ หรืออาจจะรู้แต่เพิกเฉย เพราะมันเป็นผลดีกับอุตสาหกรรมยาในปัจจุบันนั่นเอง

อ ้อ อย่าลืม 20th Century Boy ตอนนี้กำลังสนุกมากเนื้อหาสาระเพียบอีกเหมือนกัน แต่อ่านแล้วมึนเหมือนตอนอ่าน Monster (คนเขียนคนเดียวกัน) เพราะตัวละครใหม่ๆ โผล่มาเรื่อยๆ ทุกเล่มเลย เรื่องนี้ออกช้าไปหน่อย เกือบปีแล้วเพิ่งมีเล่มใหม่ให้อ่านแค่ 3-4 เล่ม เท่านั้น ตอนนี้อยากอ่าน Doctor K ภาค 2 อยู่เหมือนกัน รออยู่ว่าเมื่อไรจะมีคนซื้อให้อ่าน

รูปภาพจาก Gangcartoon.com

MrsJan
10 มิ.ย. 49

07 มิถุนายน 2549

ไปซื้อนาฬิกาที่คลองถม

กลับมาถึงกรุงเทพฯ อีกแล้ว ชีพจรลงเท้า (หรือลงล้อ) ในบัดดล ไม่ได้อยู่บ้านเฉยๆ เลยแม้แต่วันเดียว ต้องมีธุระหรือหาเรื่องออกไปจนได้ เดี๋ยวนี้การเดินทางในกรุงเทพฯ ผมเปลี่ยนจากรถโดยสารเป็นรถส่วนตัวแล้ว เพราะสะดวกสุดๆ ใครไม่เคยได้มีโอกาสได้ลองใช้มอเตอร์ไซต์ในกรุงเทพฯ จะไม่เคยรู้เลยว่าสวรรค์มีจริง (แต่จะตกนรกก็อีตอนตากแดดร้อนๆ นี่แหละ) เพราะมันทั้ง สะดวก ประหยัด และรวดเร็วเอามากๆ วันหนึ่งๆ สามารถทำธุระได้หลายอย่าง จากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่งสามารถนัดหมายเวลาได้เลยว่าจะใช้เวลา 15 หรือ 20 นาทีถึงจะถึง ใช้เวลาอย่างมากไกลสุดๆ แล้วไปถึงคลองถมก็ไม่เกิน 40 นาที จะไปช้าก็อีตอนเข้าไปแถวๆ นั้นแล้วหลงทุกที เพราะสภาพภายนอกเหมือนๆ กันหมด ที่แถวนั้นมันแวดล้อมไปด้วยพลังการค้าของชาวจีนโพ้นทะเล ซึ่งส่วนใหญ่ก็ยังคงอนุรักษ์ไว้ซึ่งการค้าขายแบบดั้งเดิมแทบทั้งสิ้น

ช ่วงนี้ค่าใช้จ่ายต่อวันเฉลี่ยตกวันละหนึ่งพันบาท ดูเหมือนคนเก็บกดไม่ได้ใช้เงินมานานพอดู ไปคลองถมงวดนี้เลยได้นาฬิกาใหม่มา 2 เรือน ราคาเรือนละ 130 บาท ที่ต้องการใหม่เพราะ มีวันที่พร้อมวันให้ดูด้วยสมใจเพราะเรือนเก่าไม่มี สร้างความหงุดหงิดใจให้เป็นอย่างมาก ส่วนอีกเรือนหนึ่งเป็นเพราะนาฬิการาคาแพงของ Mascot มันชอบหยุดเดินทุกๆ 3 เดือน เลยแนะให้ไปซื้อใหม่เปลี่ยนซะ

นาฬิกาที่คลองถมนี่มีเยอะจริงๆ กองๆ กันแบบขายส่ง เยอะมากๆ จนทำราคาได้ถูกมโหฬารขนาดนี้ กะไว้ว่าถ่านหมดซื้อเรือนใหม่ใส่ซะเลยก็ยังคุ้ม ใครที่นิยมชมชอบการใส่นาฬิกาเป็นแฟชั่นต้องมาที่นี่เลย มีให้เลือกไม่หวาดไม่ไหว แต่ถ้าจะซื้อสินค้ามีราคาหน่อยสำหรับที่นี่ต้องสืบราคาดูให้ดีๆ เพราะราคาต่างกันมากเหลือเกิน ในของชนิดเดียวกันนั้นมีราคาตั้งแต่ 20-200 บาทเลยทีเดียว ที่รู้อย่างนี้เพราะเคยโดนมาแล้ว

MrsJan
07 มิ.ย. 49